สมาคมอสังหา ฝาก “เศรษฐา” แก้ปมขาดแรงงาน-เลิก LTV ลดค่าโอนบ้านเกิน 3 ล้าน

“นาย พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์” จากสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ฝาก “เศรษฐา” นายกคนปัจจุบัน แก้ไขปมขาดแคลนแรงงาน ปรับขึ้นค่าแรง และเลิกหรือผ่อนเกณฑ์มาตรการ LTV สกัดเก็งกำไร รวมถึงลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง 0.01% สำหรับบ้านราคาเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป


นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า เป็นเรื่องดีที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และเริ่มบริหารประเทศในเร็วๆ นี้ เพื่อจะได้ขับเคลื่อนเศษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง ท่ามกลางสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน ซึ่งเรื่องด่วนที่รัฐบาลต้องทำนอกจากดูแลปากท้องของประชาชนแล้ว ยังต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีลงมาลุยเรื่องการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นจากปัจจุบันกำลังฟื้นตัว ถือเป็นเรื่องที่ดี ขณะเดียวกันต้องบริหารการส่งออกให้ดี ให้มีรายได้มากขึ้น หาสินค้าและตลาดใหม่ๆ เช่น ตอนนี้อินเดียไม่ส่งออกข้าว มันสำปะหลัง สามารถใช้โอกาสนี้ทำการตลาดได้

“ตอบยากมากว่าหลังมีรัฐบาลแล้ว จะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส4 ดีขึ้นหรือไม่ เพราะยังลูกผีลูกคน และทั่วโลกเศรษฐกิจก็ไม่ดีด้วย” นายพรนริศ กล่าว

โดยทางสมาคมฯ มีข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ให้พิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เพราะปัจจุบันตลาดซบเซา กำลังซื้อหดตัวลง โดยกลุ่มบ้านระดับราคา 1-3 ล้านบาท ลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่านกว่า 50% โดยขอให้รัฐบาลแก้ไข ซึ่งระบุได้ดังนี้

1.ขยายเพดานลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง 0.01% จากเดิมกำหนดสำหรับบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นบ้านมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป เพราะกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาทมีปัญหากู้แบงก์ไม่ผ่านสูง ถึงจะออกมาตรการมาก็ช่วยได้ไม่มาก เพราะกำลังซื้อไม่มี

2.ยกเลิกหรือผ่อนเกณฑ์มาตรการ LTV ( อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน) ซึ่งก่อนหน้านี้การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการนี้เพื่อสกัดการเก็งกำไร แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ธปท.น่าจะยกเลิกหรือผ่อนผันเกณฑ์ออกไปก่อน

3.แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน นับจากมีโควิดถึงขณะนี้แรงงานยังไม่มีกลับเข้าสู่ระบบ จึงต้องพึ่งแรงงานต่างชาติเกือบจะ 100% โดยพบว่ายังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการค่อนข้างสูง โดยขอให้ภาครัฐลดค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าและขั้นตอนต่างๆที่ยุ่งยาก ทำให้แรงงานต่างชาติเข้ามาลำบาก ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น ขอให้ทยอยปรับ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัว

4.แก้กฎหมายต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการอสังหาฯ เช่น กฎหมายจัดสรร ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ ที่กำหนดเรื่องใหม่หลายเรื่อง เช่น พื้นที่สีเขียว มีต่อต้นทุนเพิ่มขึ้น เป็นต้น 5.ลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

Back to top button