BANPU มั่นใจก๊าซฯ Q3 ฟื้น เล็งดัน BKV เทรดตลาดนิวยอร์กปลายปีนี้

BANPU มั่นใจราคาก๊าซฯ ไตรมาส 3 ฟื้น เล็งดัน BKV เข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กไตรมาส 4 ฟากธุรกิจ รุกหนักธุรกิจ “ดักจับคาร์บอน” แย้มโครงการ “บาร์เนตต์ ซีโร่” เริ่มกักเก็บได้ปลายปีนี้ พร้อมลุยลงทุนพื้นที่ “เซนต์หลุยส์” 1 โครงการ เพื่อต่อยอดสู่ Net Zero


นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 29 ส.ค.66 ว่า ธุรกิจถ่านหินและก๊าซฯในไตรมาส 3/66 โดยราคาก๊าซฯคาดว่าจะยังมีความผันผวนอิงทางปรับตัวขึ้น ตามสภาวะอากาศที่จะหนุนให้มีความต้องการกักเก็บก๊าซฯมากขึ้น สอดคล้องกับซัพพลาย หรือผู้ผลิตที่ไม่ได้มีการขุดหลุมใหม่ๆ เพิ่ม ทำให้คาดการณ์ว่าราคาก๊าซฯ จะขยับขึ้นมาอยู่ราว 2.6 เหรียญต่อล้านบีทียู (MMBTU) ในไตรมาส 3/66 ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 3.0-3.5 เหรียญต่อล้านบีทียู (MMBTU) ในไตรมาส 4/66

ขณะที่ราคาถ่านหินปีนี้ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ด้วยราคาเฉลี่ย 150-160 เหรียญฯต่อตัน ก็ยังเป็นระดับราคาที่ดีอยู่ โดยระยะยาวมองราคาจะผันผวนน้อยลงเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา ที่เคยปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 400 เหรียญฯต่อตัน จากไม่มีปัจจัยหนุน

ในขณะเดียวกันก็เป็นไปได้ยากที่จะเห็นราคาถูกกดดันลงมาในระดับราคาเป็นตัวเลข 2 หลัก อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นราคาในระดับ 100 ต้น ถึง 100 กลางๆ แบบนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับจีนที่จะประคองสภาวะเศรษฐกิจต่อไปอย่างไร เนื่องจากเป็นดีมานด์ขนาดใหญ่

ส่วนของการทำราคาถ่านหินปีนี้ จะขึ้นอยู่กับราคาตลาดเป็นหลัก โดยส่วนมากมีการกำหนดราคาไปเรียบร้อยแล้ว จึงมองราคาถ่านหินจากนี้ไปจนถึงปลายปีนี้จะไม่ผันผวนมาก

สำหรับความคืบหน้าธุรกิจกักเก็บคาร์บอน เพื่อดำเนินธุรกิจดักจับใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ปัจจุบันมีจำนวน 2 โครงการซึ่งอยู่ในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ 1.โครงการ Cotton Cove มูลค่าลงทุน 14-24 ล้านเหรียญสหรัฐสามารถรองรับการกักเก็บคาร์บอนด์ได้ประมาณ 8 หมื่นตันต่อปี

และ 2.โครงการ Barnett Zero (บาร์เนตต์ ซีโร่) มูลค่าลงทุน 29-34 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถกักเก็บคาร์บอนด์จะทำได้ประมาณ 2.1 แสนตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ตันแรกได้ในปลายปีนี้ นอกจากนั้นยังหาโอกาสขยายธุรกิจเพิ่มอีก 1 โครงการในเซนต์หลุยส์ และวางแผนที่จะขยายการลงทุนในเรื่อง CCUS ต่อเนื่อง เนื่องจากในพื้นที่สหรัฐอเมริกาเป็นพื้นที่สามารถทำ CCUS ได้ง่าย อีกทั้งการทำโครงการได้รับการสนับสนุนในสิทธิประโยชน์ด้านเครดิตภาษีจากรัฐบาลสหรัฐ และสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในอนาคต

ส่วนแผนการนำบริษัทย่อย BKV Corporation (BKV) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติ (Shale Gas) และธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ในสหรัฐฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น New York Stock Exchange (NYSE) บริษัทฯ ยังคงมีความตั้งใจจะนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนฯ ในไตรมาส 4/66 แต่หากสถานการณ์ไม่เอื้อก็จะเลื่อนไปในไตรมาส 1/67 แทน แต่ยืนยันว่าหากมีการเลื่อนก็จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบ้านปู

“อย่างไรก็ตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2566 กลยุทธ์ยังเน้นไปที่การลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายเป็นหลัก เนื่องจากไปดูราคาถ่านหินในปัจจุบันไม่สูงเท่าปีก่อน อีกทั้งบริษัทมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำพลังงานในเอเชียแปซิฟิก ตามจุดมุ่งหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่ว่า The Asian energy company at the heart of innovation, technology, and sustainability”นางสมฤดีกล่าว

Back to top button