“กรภัทร” แนะลงทุน 3 หุ้นเด่น รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
“กรภัทร วรเชษฐ์” ประเมิณภาพรวม SET ไทยปรับตัวดีขึ้น รับแรงเงินทุนต่างชาติไหลเข้า หลังบอนด์ยีลด์ – เงินดอลลาร์อ่อนค่าหนุน รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดแนวต้านปลายปีที่ 1,583-1,589 จุด แนวรับที่ 1,569-1,565 จุด แนะจับตาดูหุ้น BE8- WHA- SCGP เด่นรับนโยบายรัฐบาล
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ KCS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (31 ส.ค. 66) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้น หลังได้รับปัจจัยบวก จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ที่ลดลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งเป็นทิศทางบวกต่อการลงทุน ทำให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์ในช่วงปลายปีว่า ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวขึ้น โดยมีแนวต้าน 1,583 จุด -1,589 จุด และแนวรับที่ 1,569-1,565 จุด
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มากขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ (GDP) ในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ระดับ 2.1% และกลุ่มแรงงานชะลอตัว ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มกลับมามองว่าเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้
ขณะที่การเมืองในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น โดยนาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกนโยบายเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น นโยบายฟรีวีซ่า, อีวีซ่าและดิจิตอลวอลเลต สามารถดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ เช่นเดียวกับการส่งออก เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ส่วนเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มบวกหลังจากผ่านครึ่งปีแรกไป ดังนั้นหุ้นที่เคยถูกกดดันก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายกับจีนจะคลี่คลายความกังวลได้บ้าง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจ นายกรภัทร แนะนำหุ้นกลุ่มบริโภค ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต คือ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 โดยราคาเป้าหมายที่ 74 บาท ส่วนนโยบายการเปิดฟรีวีซ่า หรือ อีวีซ่า ทำให้นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น ควรจับตาหุ้นเด่นอย่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA แนะนำราคาเป้าหมายที่ 6 บาท นอกจากนั้น ตัวหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายกับประเทศจีน มีโครงสร้างพื้นฐานดี คือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ควรซื้อมูลค่าพื้นฐานที่ 55 บาท