GFC เคาะราคาไอพีโอ 7 บาท เปิดจองซื้อ 4-6 ก.ย.นี้
"เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์" หรือ GFC เคาะราคาขาย IPO ที่ 7 บาท เปิดจอง 4-6 ก.ย.66 โดยมี บล.โกลเบล็ก เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 60,000,000 หุ้น กำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 7.00 บาท มูลค่าการเสนอขายทั้งสิ้น 420,000,000 บาท เปิดจองซื้อในวันที่ 4 – 6 กันยายน 2566 โดยมี บล.โกลเบล็ก เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
ส่วนที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด และหุ้น GFC จะเข้าซื้อขายในตลาด เอ็ม เอ ไอ หมวดธุรกิจบริการ (SERVICE)
ทั้งนี้สัดส่วนการเสนอขายหุ้น ได้แก่ เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จำนวน 53 ล้านหุ้น หรือ 88.34% เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย จำนวน 1.4 ล้านหุ้นหรือ 2.33% และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย จำนวน 5.6 ล้านหุ้น หรือ 9.33%
โดยมีมูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) เท่ากับ 1.05 บาท/หุ้น (คำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 66 เท่ากับ 168.70 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ก่อนการเสนอขายหุ้น จำนวน 160.00 ล้านหุ้น)
สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัท (Price to Earnings Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญของบริษัทที่เสนอขายหุ้นละ 7.00 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) เท่ากับ 21.17 เท่า
โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 – 30 มิถุนายน 2566 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 220 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.33 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิดังกล่าวคำนวณจากผลประกอบการในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 154 ล้านบาท ภายในปี 2566 ถึง 2567, ใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการขยายสาขา 232.50 ล้านบาท ภายในปี 2566 – 2568 ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ