JKN เจอวิกฤต “สภาพคล่อง” กระทบจ่ายหุ้นกู้ 600 ล้านบาท
JKN ยอมรับเจอวิฤตสภาพคล่อง กระทบเงินสดในการจ่ายหุ้นกู้ 600 ล้านบาท จ่อนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 27 ก.ย.นี้ ลั่นต่อยอดสินทรัพย์ 1 หมื่นล้านสร้างอนาคตเติบโต
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาทิพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN จัดแถลงข่าวด่วนเพื่อชี้แจงกรณีการผิดนัดชำระหุ้นกู้ รุ่น JKN239A จำนวน 600 ล้านบาท ผ่านระบบ ZOOM วันนี้ (1 ก.ย.66) หลังวานนี้ได้มีการแจ้งข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า
“บริษัทฯต้องขอชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2563 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 (หุ้นกู้รุ่น JKN239A) ถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ 1 ก.ย.66 จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งสิ้น 610 ล้านบาท ไม่เต็มจำนวน โดยจะชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 156 ล้านบาท ในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ (1 ก.ย.66) และคงเหลือยอดค้างชำระจำนวน 443.40 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะขอมติผู้ถือหุ้นกู้โดยการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอเลื่อนกำหนดชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยโดยเร็วที่สุด”
ทั้งนี้ นายจักรพงษ์ ระบุว่า สาเหตุของปัญหาดังกล่าวมาจากการขาดสภาพคล่อง โดยแหล่งเงินทุนของบริษัทมีระยะสั้น อย่างหุ้นกู้บริษัทมีอายุ 1 ปี 9 เดือน – 2 ปี ขณะที่บริษัทเดินหน้าลงทุนธุรกิจต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว จนทำให้เกิด Liquidity Mismatch
ดังนั้น บริษัทจึงยังไม่สามารถชำระหุ้นกู้รุ่น JKN 239A จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งสิ้น 609.98 ล้านบาทได้เต็มจำนวน โดยจะชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 156.60 ล้านบาทบาท ในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ (1 ก.ย. 66) และคงเหลือยอดค้างชำระจำนวน 443.40 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งแผนการแก้ไขปัญหาการผิดนัดชำระดังกล่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 11 ก.ย. 66 และจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ วันที่ 27 ก.ย.66 เพื่อขออนุมัติ 1) แผนการชำระเงินต้น และดอกเบี้ยหุ้นกู้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิ รวมถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง และ 2) การขอผ่อนผันให้การผิดนัดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ และไม่เรียกชำระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลัน (Call Default) หากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทเชื่อมั่นว่า บริษัทจะสามารถเสนอเงื่อนไขในการชำระเงินต้น และดอกเบี้ยตามแผนที่กำหนดไว้ได้
นายจักรพงษ์ กล่าวเพิ่มว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา JKN ได้ลงทุนต่อเนื่อง ได้แก่ ลงทุนโฮมช้อปปิ้ง ราว 400 ล้านบาท ลงทุนทีวีดิจิทัลช่อง JKN18 วงเงิน 1,200 ล้านบาท และล่าสุดเข้าซื้อกิจการองค์กรนางงามจักรวาลหรือมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe Organization) หรือ กลุ่มธุรกิจ MUO ด้วยเงิน 20 ล้านเหรียญ และต่อยอด MUO Brand ไปขยายในธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจสปา ร้านอาหาร อะคาเดมี และธุรกิจโรงแรม เป็นต้น โดยมีการขายลิขสิทธิ์ โดยไม่ได้ลงทุนเอง
“วันนี้บริษัทหยุดลงทุนแล้ว เพราะ Ecosystem ครบแล้วในการดำเนินธุรกิจ Global Content Company โดยจะนำทรัพย์สินที่มีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทมาสร้างอนาคต และไม่มีความคิดตัดขายสินทรัพย์ออก” นายจักรพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชิญชวนนักลงทุนเข้ามาร่วมลงทุน JKN ผ่านช่องทาง Private Placement (PP) ที่บริษัทต้องการนักลงทุนที่ไม่ใช่แค่เงินทุนอย่างเดียวแต่ต้องมีวิสัยทัศน์ และคอนเนคชั่นด้วย หรือผู้ประกอบการไหนต้องการจะร่วมลงทุนในธุรกิจที่บริษัทได้แตกไลน์สินค้าจากแบรนด์ MUO อาทิ เครื่องดื่ม เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น โดยปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือหลักร้อยล้านบาท อีกทั้งชวนมืออาชีพมาร่วมงานกับ JKN
“บทเรียนเรื่องนี้ทำให้รู้ว่าบริษัทต้องหาแหล่งเงินทุนระยะยาวให้สอดคล้องกับการลงทุนระดับโลก” นายจักรพงษ์ กล่าว