JKN แจงดึง “ท็อปนิวส์” กู้วิกฤตสภาพคล่อง ยันถือ “ไลเซนส์” JKN18 ตามเดิม
JKN แจง ผนึก “ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย” กู้วิกฤตสภาพคล่อง ยันถือไลเซนส์ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ JKN18 ตามเดิม
บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่ปรากฏรายงานข่าวจากสื่อมวลชนบางฉบับว่า บริษัทขายช่อง JKN18 ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลในประเทศไทย ภายใต้บริษัท เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์ จำกัด (“JKNBL”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว นั้น
บริษัทฯขอเรียนให้ทราบว่าบริษัทฯได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับบริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด (“Top News”) ในการร่วมผลิตรายการประเภทรายการข่าวสารและสาระระหว่าง JKNBLและ Top News เพื่อออกอากาศทางช่อง JKN18 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดผังรายการเพื่อจัดสรรช่วงเวลาการออกอากาศ โดยบริษัทฯจะได้รับค่าตอบแทนตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน
โดยการเข้าทำรายการในครั้งนี้มีความสมเหตุสมผลเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ ทั้งนี้ JKNBL ยังเป็นผู้ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (“กสทช.”) เช่นเดิม และมิได้ทำการขายสิทธิในการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ตามที่ปรากฏในรายงานข่าวแต่อย่างใด
สำหรับการร่วมผลิตรายการในครั้งนี้นั้น จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับช่อง JKN18 เนื่องจากบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญทางด้านรายการบันเทิง และรายการข่าวด้านเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ในขณะที่ Top News มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มรายการข่าวสารและสาระ ในการเสนอข้อเท็จจริงในทุกๆด้าน การนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายมาร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยผลักดันความนิยมของผู้ชม รวมถึงขยายฐานผู้ชมช่อง JKN18 ให้มีจำนวนมากขึ้น สามารถเสริมสร้างให้ธุรกิจของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
อนึ่งรายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และไม่เข้าข่ายเป็นการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ตามนัยของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)