โบรกชี้ GULF เร่งนำเข้า LNG ป้อน “โรงไฟฟ้าหินกอง” ล็อตสองปี 68 ต่อไป!

GULF นำเข้า LNG ป้อน “โรงไฟฟ้าหินกอง” 1.4 ล้านตันต่อปีปีล็อตแรกในเดือนมี.ค. 67! โบรกมองบวก อีกทั้งคาดบริษัทฯจะทำสัญญาเพิ่มอีกสำหรับการดำเนินงานตั้งแต่ปีที่สองเป็นต้นไป ขณะที่ผลกระทบจากการลดค่า Ft ต่อ GULF คาดจะจำกัด ดังนั้น มองว่าเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่ประคองตัวได้ดีในช่วงที่เผชิญกับอุปสรรคจากการลดค่าไฟฟ้า


บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งผ่านสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าตามที่บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GULF ถือหุ้น 49% และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ถือหุ้น 51% ได้รับใบอนุญาตการเป็นผู้ประกอบการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper License) ปริมาณ 1.4 ล้านตันต่อปีนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา HKH ได้ลงนามสัญญาจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวระยะสั้น (Term LNG Supply Agreement) กับ Gunvor Singapore Pte. Ltd. (Gunvor) ภายใต้ Gunvor Group Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทพลังงาน (Energy Commodities Trading) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) กำลังการผลิตตามสัญญา 1,400 เมกะวัตต์

โดยภายใต้สัญญาดังกล่าว Gunvor จะจัดหาก๊าซ LNG ประมาณ 5 แสนตันต่อปี ให้แก่ HKH ซึ่งจะเริ่มนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นครั้งแรกในเดือน มี.ค. 2567 เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าหินกอง หน่วยที่ 1 กำลังการผลิตตามสัญญา 700 เมกะวัตต์ ที่มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน มี.ค. 2567

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การทำสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามที่ผู้บริหารบอกกับที่ประชุมนักวิเคราะห์เอาไว้เมื่อเดือนสิงหาคม โดยจะมีการจัดส่งล็อตแรกในเดือนมีนาคม 2567 สอดคล้องกับกำหนด SCOD ของ unit-1 โดย ในช่วงที่มีการทดสอบ และเริ่มดำเนินการจะใช้ก๊าซจาก PTT โดยคาดว่าสัญญาแรกนี้จะใช้สำหรับป้อน LNG ให้กับ unit 1 ในปีแรกที่เปิดดำเนินการเท่านั้น และคาดว่า GULF จะทำสัญญาเพิ่มอีกสำหรับการดำเนินงานตั้งแต่ปีที่สองเป็นต้นไป

ส่วนผลกระทบจากการลดค่า Ft ต่อ GULF คาดว่าจะจำกัด (ขยายเงินอุดหนุน กฟผ.) เพราะ SPPs คิดเป็นสัดส่วนเพียง 20% ของกำลังการผลิต (equity capacity) รวม ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 ในขณะที่ IPPs ยังคิดเป็นส่วนหลักที่ 71% ของกำลังการผลิตรวม

ขณะเดียวกันหลังจากที่รัฐบาลใหม่เข้าปฏิบัติหน้าทีในช่วงต้นเดือนกันยายน โดยคาดว่าน่าจะออกแผน PDP ใหม่ได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 ถึงไตรมาส 1 ปี 2567 ทั้งนี้ GULF ชนะประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศ (5.2GWe) ประมาณ 2GWe และคาดว่าจะเซ็นสัญญาในไตรมาส 4 ปี 2566 คาดว่ากำหนด SCOD ของโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ จะกระจายอยู่ในช่วงปี 2567-2573 ซึ่งจะช่วยหนุนแนวโน้มการเติบโตของกำไรในระยะยาวของบริษัท

อย่างไรก็ตามราคาหุ้น GULF คิดเป็น P/E ปี 2566 ที่ 36.3 เท่า และ P/BV ที่ 4.5 เท่า ซึ่งหากใช้ประมาณการ EPS ปี 2567 ค่าP/E จะลดลงเหลือ 28.8 เท่า และ P/BV จะลดลงเหลือ 4.3 เท่า ดังนั้น มองว่า GULF เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่ประคองตัวได้ดีในช่วงที่เผชิญกับอุปสรรคจากการลดค่าไฟฟ้า

Back to top button