สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ย.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ย.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (18 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณในสภาคองเกรสสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,624.30 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,453.53 จุด เพิ่มขึ้น 3.21 จุด หรือ +0.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,710.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.90 จุด หรือ +0.01%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (18 ก.ย.) โดยปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายขณะรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,652.94 จุด ลดลง 58.44 จุด หรือ -0.76%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (18 ก.ย.) โดยการร่วงลงของหุ้นธนาคารโซซิเอเต้ เจเนเรลของฝรั่งเศสกดดันตลาด หลังนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยแผนกลยุทธ์ของซีอีโอคนใหม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 456.72 จุด ลดลง 5.21 จุด หรือ -1.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,276.14 จุด ลดลง 102.68 จุด หรือ -1.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,727.12 จุด ลดลง 166.41 จุด หรือ -1.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,652.94 จุด ลดลง 58.44 จุด หรือ -0.76%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (18 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,953.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.20 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 23.498 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 938.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.70 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,244 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันจันทร์ (18 ก.ย.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว หลังจากรัสเซียและซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดอุปทานน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้ รวมทั้งรายงานที่ว่าการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในสหรัฐปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 91.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 94.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2565
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (18 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.11% แตะที่ระดับ 105.2014
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.7270 เยน จากระดับ 147.8570 เยนในวันศุกร์ (15 ก.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3496 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3516 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 11.1694 โครนา จากระดับ 11.1821 โครนา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8978 ฟรังก์ จากระดับ 0.8972 ฟรังก์
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0679 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0660 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2376 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2384 ดอลลาร์