สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ย.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ย.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยความกังวลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ดัชนีเฉลี่ยอุตหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,070.42 จุด ลดลง 370.46 จุด ลดลง -1.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,330.00 จุด ลดลง 72.20 จุด หรือ -1.64% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,223.98 จุด ลดลง 245.14 จุด หรือ -1.82%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางรายใหญ่ทั่วโลกบ่งชี้ว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 454.67 จุด ลดลง 5.99 จุด หรือ -1.30%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,213.90 จุด ลดลง 116.89 จุด หรือ -1.59%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,571.86 จุด ลดลง 209.73 จุด หรือ -1.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,678.62 จุด ลดลง 53.03 จุด หรือ -0.69%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) แต่ลดช่วงติดลบลง หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตรึงอัตราดอกเบี้ย และบ่งชี้ถึงการยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไป
ทั้งนี้ FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,678.62 จุด ลดลง 53.03 จุด หรือ -0.69%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมัน WTI ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากข่าวรัสเซียประกาศระงับส่งออกน้ำมันทั่วโลกเป็นปัจจัยหนุนตลาดในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือประมาณ 0.1% ปิดที่ 89.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 27.50 ดอลลาร์ หรือ 1.40% ปิดที่ 1,939.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14.90 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 23.687 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 17.70 ดอลลาร์ หรือ 1.88% ปิดที่ 924.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.8 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,269 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) ขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ระดับ 105.3620
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9040 ฟรังก์ จากระดับ 0.8969 ฟรังก์ในวันพุธ (20 ก.ย.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3469 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3437 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 11.1616 โครนา จากระดับ 11.0915 โครนา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.5180 เยน จากระดับ 147.9800 เยน
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0662 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0686 ดอลลาร์ในวันพุธ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2291 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2362 ดอลลาร์