ดับเครื่องชน! “บิ๊กโจ๊ก” แฉเหตุค้นบ้านเป็น “การเมือง” ใน สตช. ขอหมายไม่สุจริต
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดใจหลังตำรวจ สอท.เข้าค้นบ้าน เชื่อเป็นเรื่องการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังตรวจสอบพบเป็นการขอค้นโดยไม่สุจริต และหลอกศาลโดยไม่บอกว่าเป็นบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พร้อมแจงไม่รู้จัก “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวเปิดใจหลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยวิภาวดี 60 ซึ่งอยู่ด้านหลังสโมสรตำรวจ
โดยจากการตรวจสอบในหมายค้นที่เจ้าหน้าที่นำมาแสดง ไม่มีชื่อของตนในหมาย ดังนั้นการขอหมายค้นครั้งนี้เป็นการขอค้นโดยไม่สุจริต เป็นการหลอกศาล เพราะในหมายค้นระบุเพียงว่า ค้นบ้านเลขที่เท่าไร แต่ไม่แจ้งศาลว่าเป็นบ้านของตน ทั้งที่ตำรวจหลายฝ่ายก็รู้ว่าตนอาศัยอยู่ที่นี่ หากศาลทราบว่าเป็นบ้านของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ก็คงไม่ออกหมายค้น คงให้ตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งบ้านทั้ง 5 หลัง มีญาติของตนเป็นชื่อเจ้าของบ้าน
นอกจากนี้ การตรวจค้นบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จะต้องมีหลักฐานการกระทำผิดชัดเจน หรือมีเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำผิด แต่ตนบริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเว็บพนันออนไลน์ และไม่มีเส้นทางการเงินใดๆ เชื่อมโยงมาถึงตน รวมทั้งการตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนที่ลูกน้องคนสนิทของตนถูกออกหมายจับ ลูกน้องก็ต้องไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง หากทำผิดจริงก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนพอจะทราบมาล่วงหน้าว่ามีการตระเตรียมกันมาก่อน เป็นเรื่องที่มาจากความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากตนทำงานมาก ทำคดีใหญ่มาหลายคดี อาจไปกระทบกับใครหรือขัดผลประโยชน์ใครหลายส่วน เพราะเร็วๆ นี้ก็จะมีการออกหมายจับตำรวจที่ทำผิดอีกหลายนาย ดังนั้นตนก็ต้องยอมรับแรงกระแทก ซึ่งตนเป็นนักสู้อยู่แล้ว
ส่วนจะเกี่ยวข้องกับประเด็นการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ขอตอบคำถามนี้ แต่ขอให้สังคมไปดูว่าเมื่อเร็วๆ นี้มีประเด็นอะไรบ้าง และการออกหมายค้นวันนี้ ไม่ปกติ ไม่ถูกต้อง เป็นการทำเกินกว่าเหตุ เป็นการดิสเครดิต ทำให้เสียชื่อเสียง ดังนั้นตนจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง และขอต่อสู้ตามกฎหมาย สำหรับกรณีเรื่องการจ่ายค่าไฟที่บ้าน ยืนยันว่าไม่ได้ให้เจ้าของเว็บพนันมาจ่ายให้ แต่ตนเป็นคนให้เงินลูกน้องไปจ่าย
ขณะที่คลิปหลุดที่ตนไปร้องเพลงกับมินนี่ เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนรู้เรื่องคลิปมานานแล้ว โดยวันเกิดเหตุ เป็นงานเลี้ยงลูกน้อง ซึ่งใครจะพาใครมาร่วมงานเลี้ยงด้วยนั้น ตนก็ไม่รู้ ส่วนผู้หญิงในคลิปก็ยืนยันว่าไม่รู้จัก ไม่มีความเชื่อมโยง ไม่ได้ติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตนเป็นคนที่เปิด ใครจะเข้ามาหาก็ได้ แต่ถ้ากระทำผิดก็ต้องดำเนินคดี ส่วนที่มีภาพลูกน้องคนสนิทไปใกล้ชิดกับผู้หญิงคนดังกล่าว ก็เป็นหน้าที่ของลูกน้องคนนั้นที่ต้องชี้แจงอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่มีหน้าที่ไปตอบให้ รวมทั้งลูกน้องที่ถูกออกหมายจับคดีเกี่ยวข้องกับเว็บพนันด้วย หากพบว่าลูกน้องคนไหนทำผิด ตนก็จะไม่ปกป้อง แต่เบื้องต้นยังเชื่อมั่นในตัวลูกน้อง และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่กระทบกับขวัญกำลังใจในการทำงาน ยังคงทำหน้าที่ตามเดิม ส่วนลูกน้องที่ถูกดำเนินคดี ก็คงประกันตัวออกมาต่อสู้คดี จากนั้นก็ออกมาทำงานต่อ เคยรับผิดชอบคดีไหนอยู่ก็ทำงานต่อไป ส่วนที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จะแฉตนในวันที่ 27 กันยายนนี้ ก็เป็นสิทธิ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็จะดำเนินคดีเช่นกัน
พร้อมย้ำว่า ตนบริสุทธิ์ใจ และไม่มีหลักฐานใดที่เชื่อมโยงถึงตน หากมีหลักฐานว่าตนทำผิด ก็พร้อมถูกดำเนินคดี ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนายกรัฐมนตรียังไม่ได้เรียกให้เข้าชี้แจง แต่ตนพร้อมจะชี้แจงทุกประเด็น