“นักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน” แห่เข้าไทย เปิดฟรีวีซ่าวันแรก
นักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถานแห่เข้าไทยคึก! หลังวันนี้เริ่มใช้นโยบายฟรีวีซ่าเป็นวันแรก หนุนรายได้ทั้งปีโตตามเป้า 2.38 ล้านล้านบาท มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ และฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรับไฮซีซั่นปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.ย. 66) เป็นวันแรกของมาตรการวีซ่าฟรี โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐคาซัคสถาน ณ ท่าอากาศยานสำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต
โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสายการบินแอร์ เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 761 เส้นทางเซียงไฮ้-สุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทั้งหมด 341 คน ซึ่งแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 306 คน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น 35 คน
อีกทั้ง ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน FD583 สายการบิน Thai Air Asia จากคุนหมิง, เที่ยวบิน SL935 สายการบิน Thai Lion Air จากฉางซา และเที่ยวบิน DD3111 สายการบิน Nok Air จากหนานหนิง รวมถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวน 2 เที่ยวบิน สายการบิน China Eastern Airlines ได้แก่ เที่ยวบิน MU 205 จากเซี่ยงไฮ้ และเที่ยวบิน MU 2563 จากคุนหมิง
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน 1 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน KC 563 สายการบิน Air Astana จากอัลมาตี้ และจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน CA 717 สายการบิน Air China จากหางโจว เที่ยวบิน 9C8667 สายการบิน Spring Airlines จากเซี่ยงไฮ้ และเที่ยวบิน CA 821 สายการบิน Air China จากปักกิ่ง
ขณะที่ททท. คาดการณ์ว่า มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะสามารถกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ให้เดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 4.01 – 4.4 ล้านคนในปี 66 และผลักดันรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมาย 257,500 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าในช่วง 5 เดือนที่มีมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ 140,313 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการฟื้นตัว 62% เมื่อเทียบกับปี 62 และคาดว่านักท่องเที่ยวคาซัคสถานจะเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 150,000 คนในปี 66 และคาดว่าในช่วง 5 เดือนของการยกเว้นการตรวจลงตรา จะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจำนวนประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้น 49.7%เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาท
โดยรัฐบาลเชื่อมั่นว่า มาตรการดังกล่าวจะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และจะช่วยพลิกฟื้นการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาอีกครั้ง เนื่องจากจะช่วยคลี่คลายข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว กลุ่มทัวร์ และกลุ่ม Incentive
ประกอบกับช่วงเวลาดำเนินมาตรการฯ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ครอบคลุมช่วง Golden week ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องถึงช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ จะยิ่งช่วยผลักดันสู่เป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ตั้งไว้ของปี 66 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคน และสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศ ให้กลับมาในอัตรา 80% ของปี 62 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมมุ่งสู่เป้ารายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท
“มั่นใจว่านโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก จากการสอบถามเบื้องต้นพบว่า มีการจองเข้ามาจำนวนมาก เราต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามา ไม่ใช่แค่เมืองหลัก เช่น กรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต แต่จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เพื่อให้ใช้เวลาในประเทศไทยนานขึ้น เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายมากขึ้น” นายเศรษฐา กล่าวภายหลังต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึง จนก้าวสุดท้ายที่เดินทางกลับ ต้องมีความปลอดภัยและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศมีความรวดเร็วมากขึ้นตั้งแต่การตรวจคนเข้าเมือง มาถึงจุดที่รับกระเป๋า ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ ซึ่งทำให้เดินทางไปยังจุดหมายของนักท่องเที่ยวได้เร็วขึ้น ภาครัฐและทุกคนมีส่วนช่วยให้วันนี้เป็นวันที่ดีวันหนึ่งของประเทศไทย