สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.ย.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.ย.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (26 ก.ย.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างก็ดิ่งลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาด และความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะถูกปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,618.88 จุด ลดลง 388.00 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,273.53 จุด ลดลง 63.91 จุด หรือ -1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,063.61 จุด ลดลง 207.71 จุด หรือ -1.57%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (26 ก.ย.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนทำให้หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราปรับตัวลง

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 447.70 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.61% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 11 สัปดาห์

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,074.02 จุด ลดลง 49.86 จุด หรือ -0.70%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,255.87 จุด ลดลง 149.62 จุด หรือ -0.97% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,625.72 จุด เพิ่มขึ้น 1.73 จุด หรือ +0.02%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดแทบทรงตัวในวันอังคาร (26 ก.ย.) โดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มเฮลท์แคร์ ได้บดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,625.72 จุด เพิ่มขึ้น 1.73 จุด หรือ +0.02%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (26 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันตึงตัว ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 90.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 93.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (26 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 16.80 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,919.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.90 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 23.196 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 10.40 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 907.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1225.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (26 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และแนวโน้มที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 106.2270  ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 149.0710 เยน จากระดับ 148.8090 เยนในวันจันทร์ (25 ก.ย.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9152 ฟรังก์ จากระดับ 0.9123 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3521 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3471 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 11.0285 โครนา จากระดับ 11.0561 โครนา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0566 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0587 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2157 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2208 ดอลลาร์

Back to top button