JPARK ปลื้ม ยอดจองซื้อ “ไอพีโอ” หมดเกลี้ยง ลั่นระฆังเทรด mai 3 ต.ค.นี้
JPARK ปลื้มนักลงทุนตอบรับดี จองซื้อ IPO ครบจำนวนเสนอขาย 110 ล้านหุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ความสามารถในการทำกำไรโดเด่น พร้อมโอกาสในการเติบโตในอนาคต มั่นใจลั่นระฆังเทรด 3 ต.ค.นี้
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วประเทศที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของ JPARK หมดทั้งจำนวนที่เสนอขาย 110 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง
โดยบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าซื้อขายวันแรก หรือ First Day Trade ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 3 ตุลาคม 2566 โดย JPARK มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่จอดรถมามากกว่า 20 ปี สามารถนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละประเภทได้อย่างครบวงจร ซึ่งบริษัทฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดี และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายของ JPARK เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความยินดีที่บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น IPO ครบทั้งจำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 27.50 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ซึ่งจากการกำหนดราคาเสนอขายที่หุ้นละ 3.80 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากลักษณะธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องทั้งจากธุรกิจบริหารพื้นที่จอดรถและรับจ้างบริหารพื้นที่จอดรถ ประกอบกับความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 22-25% อัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 11-12% รวมถึงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ โดยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลักคือ 1.ธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (Parking Service Business: PS) 2.ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Parking Management Service Business: PMS) และ 3.ธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Consultant and Installation Parking System Business: CIPS) โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีช่องจอดภายใต้การดูแลกว่า 28,000 ช่องจอด โดยมีทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ-จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า ศูนย์การค้าแหล่ง CBD บริเวณโรงพยาบาล สถานศึกษา สนามบิน ซึ่งพื้นที่ให้บริการส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
โดยภายหลังจากการระดมทุน JPARK มีแผนที่จะลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2567 รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
“ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของ JPARK เราต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจ และการตอบรับที่ดี ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานหนักร่วมกันของทั้ง JPARK และที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย และผู้ร่วมจัดจำหน่ายทุกท่าน ทำให้เรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าซื้อขายวันแรก และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่จากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง” นายสันติพล กล่าว
ขณะที่ผลประกอบการของ JPARK ในปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 286.17 ล้านบาท 243.61 ล้านบาท และ 455.09 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 6.51 ล้านบาท ขาดทุน 10.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในช่วงปี 2563 จนถึงกลางปี 2565 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่ำกว่าช่วงเวลาปกติ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown จากสถานการณ์ COVID-19 จึงส่งผลให้รายได้จากธุรกิจให้บริการที่จอดรถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปี 2565 เมื่อสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับการที่บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ และธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมในปี 2565 บริษัทมีรายได้ และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น