โบรกคัด 3 หุ้น “สร้างบ้าน” กำไรไตรมาส 4 โต พ่วงปันผลสูง
“กสิกร” แนะนำ 3 หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ “ORI-SPALI-AP” แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 โตเด่นอย่างมีนัยสำคัญจากตลาดที่อยู่อาศัยกลับมาคึกคักเหมือนช่วงปกติ อีกทั้งยังมีปันผลที่แข็งแกร่ง
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์วานนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังได้เข้าร่วมงาน KS Property Day ซึ่งทั้งหมดเห็นกิจกรรมของตลาดที่อยู่อาศัยทั้งหมดในเดือนก.ย. กลับมาสู่ระดับปกติ และน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงที่กิจกรรมซื้อขายบ้านเพิ่มขึ้นสูง
โดยความก้าวหน้าเชิงบวกนี้เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลใหม่ก่อตั้งขึ้นเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นเดือนก.ย. หลังจากที่ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมของตลาดที่อยู่อาศัยนับตั้งแต่สิ้นสุดการเลือกตั้งในกลางเดือนพ.ค. ทำให้คาดว่าแม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (ยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์) น่าจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่แนวโน้มไตรมาส 4/66 จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับโครงการใหม่จำนวนมากจะสร้างแรงผลักดันเชิงบวกตั้งแต่ไตรมาส 4/66 นอกเหนือจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประการ เช่น ฟรีวีซ่าสำหรับชาวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66 ถึง 29 ก.พ. 2567 และจัดโรดโชว์ระหว่างประเทศเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ตลอดจนลดราคาน้ำมันดีเซลและค่าไฟฟ้า โครงการใหม่จำนวนมากที่มีแผนเปิดตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/66 ถึง ไตรมาส 4/66
ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดฯ จะช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรของกลุ่มอย่างชัดเจนในไตรมาส 4/66 แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและแคมเปญส่งเสริมการขายจำนวนมากที่จะเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร แต่การประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะชดเชยการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
โดยตลาดให้ความสำคัญกับนักพัฒนารายใหญ่และกลุ่มระดับบน ชุดผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยที่มีความหลากหลายมากขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาเติบโตท่ามกลางมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยที่ทรงตัว จากการขยายส่วนแบ่งการตลาดและอัตราเงินเฟ้อ อีกทั้งการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินต่อผู้ประกอบการรายใหญ่จะมีมากกว่ารายเล็กอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทุกคนมองว่ากลุ่มตลาดระดับล่างยังคงเผชิญกับความท้าทายจากยอดปฏิเสธสินเชื่อระดับสูงจากหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่สูง จึงมีเน้นไปที่กลุ่มระดับกลางถึงระดับสูงมากขึ้น
ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” หุ้นเด่น 3 หลักทรัพย์ อาทิ AP ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท, ORI ราคาเป้าหมาย 15.10 บาท และ SPALI ราคาเป้าหมาย 26.75 บาท โดยมองว่าแนวโน้มกำไรรายไตรมาสที่เพิ่มมากขึ้น ทิศทางยอดขายที่โดดเด่นในไตรมาส 4/66 ราคาหุ้นที่ถูก และเงินปันผลที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนคำแนะนำ