RS ปรับธุรกิจคอมเมิร์ซใหม่ “คน-สัตว์เลี้ยง” โตคู่ขนาน มั่นใจรายได้ปีนี้ทะลุ 1.8 พันล้าน
RS จัดโครงสร้างกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซใหม่ RS LiveWell สำหรับผู้คน และ RS pet all เพื่อสัตว์เลี้ยง มั่นใจไตรมาส 3/66 โดดเด่น พร้อมเตรียมส่งออกสินค้าในเครือไปยังต่างประเทศ ผ่านการจับมือกับพาร์ทเนอร์ วางแผนรุกตลาด CLMV และฟิลิปปินส์ มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้กว่า 1.8 พันล้านบาท
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ อาร์เอส ทรานส์ฟอร์มธุรกิจจากสื่อและบันเทิงไปสู่ธุรกิจคอมเมิร์ซ ที่เปลี่ยนผู้ชมและผู้ฟังหลายล้านคนให้กลายเป็นผู้ซื้อ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้วนั้น ธุรกิจคอมเมิร์ซค่อยๆ ต่อจิ๊กซอว์สร้างการเติบโต ผ่านโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่ผสานความเชี่ยวชาญจากธุรกิจสื่อและบันเทิงกับธุรกิจคอมเมิร์ซเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสม และสร้างรายได้กับอาร์เอสอย่างก้าวกระโดด
โดยวันนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ได้ตั้งเป้าเป็น ‘Life Enriching’ ซึ่งมุ่งมั่นยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ ล่าสุด จัดทัพโครงสร้างธุรกิจคอมเมิร์ซใหม่ ปลดล็อกศักยภาพในการทำธุรกิจให้มีความชัดเจนและคล่องตัวยิ่งขึ้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มบริษัท คือ RS LiveWell ผลิตและจำหน่ายสินค้าสำหรับผู้คน ขณะที่ RS pet all เป็นสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงครบวงจร จึงทำให้กลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซของ อาร์เอส ครอบคลุมหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ผลิตภัณฑ์โฮมแคร์ สำหรับดูแลผู้คน และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เป็นเหมือนสมาชิกใหม่ของครอบครัว โดยรวมแล้ว เรามีสินค้ามากกว่า 150 รายการ
RS LiveWell สินค้า House Brands ประกอบด้วยแบรนด์ well u, Vitanature+, DARING & CO., aviance, Beyonde, iFresh, Happie Homie และ De Beste
โดยมีช่องทางจำหน่ายสินค้าของตนเองถึง 2 ช่องทางหลัก ได้แก่
- RS Mall มัลติแพลตฟอร์มช้อปปิ้งสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพ มีช่องทางหลากหลาย ทั้งทีวีโฮมช้อปปิ้ง และเทเลเซลล์ กว่า 250 คน และปัจจุบันขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ผ่านดิจิทัลทีวีพันธมิตร อาทิ Workpoint TV – Amarin TV – ไทยรัฐTV และยังมีช่องทางอื่นๆ เช่น ร้านโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต และออนไลน์ มาร์เก็ตเพลส ด้วย
- ULife เป็นอีกแพลตฟอร์มขายสินค้ารูปแบบSubscription Model ซึ่งเน้นสร้างฐานลูกค้าประจำให้แข็งแกร่ง ควบคู่กับการเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้ Business Partners ของ ULife อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิด Brand Loyalty ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ทำแล้วประสบความสำเร็จมาก
ขณะที่ RS pet all เป็นธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยมีสินค้าและบริการที่หลากหลาย ได้แก่
- ธุรกิจผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์Lifemate โดดเด่นด้วยสินค้าหลากหลายประเภทรวมกว่า 40 รายการ พร้อมด้วยคุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสัตว์เลี้ยง
2.ธุรกิจผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ HATO VETERINARY SELECT ที่คัดสรรสินค้าสัตว์เลี้ยงพรีเมียม คุณภาพสูงจากสัตวแพทย์ของ HATO
- ธุรกิจผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์Jungle Monster Thailand ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าสัตว์เลี้ยงคุณภาพดีจากเกาหลี
- ธุรกิจรีเทลช็อป ภายใต้แบรนด์Pet All My Love ซึ่งจะเปิด 3 สาขาแรกในไตรมาส 4 นี้ และจะขยาย 15-20 สาขา ภายในสิ้นปีหน้า
5.ธุรกิจ Pet Wellness ภายใต้แบรนด์ HATO เน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจรและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Preventive Program ในปีนี้ คาดว่าจะเปิด Hato Pet Wellness Center เพิ่มอีก 6 สาขา
6.ธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ ปัจจุบันเปิดแล้ว 1 แห่ง ในชื่อโรงพยาบาลสัตว์ กรุงเทพ-ชัยพฤกษ์ และจะเปิดอีก 1 แห่งภายในสิ้นปี 2566
ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจคอมเมิร์ซในครึ่งปีหลัง จะมีความชัดเจนยิ่งขึ้นมาก เห็นได้จากการที่ RS LiveWell มุ่งขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังตั้งเป้าส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดต่างประเทศภายในไตรมาส 4 นี้ ซึ่งมาจากการเปิดตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV และฟิลิปปินส์ ส่วนธุรกิจในประเทศ มีสินค้าสุขภาพและความงามในแบรนด์ต่างๆ ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมเติบโตระดับ Double digit ในไตรมาส 3 นี้ ส่วน ULife ประสบความสำเร็จจากการปรับ Business model สู่ Subscription model สร้างการเติบโตของรายได้ระดับ Double digit เช่นกัน และมีสัดส่วนรายได้ในปัจจุบันจาก Subscription กว่า 90% จากผู้สมัครใช้บริการต่อเนื่อง
ขณะที่ RS pet all แบรนด์ Lifemate มียอดขายเติบโตระดับ Double digit ทั้งจากการพัฒนาปรับสูตรให้เข้ากับความต้องการของตลาดยิ่งขึ้น ประกอบกับการตอบรับที่สูงขึ้นของช่องทางขายกว่า 500 จุดจำหน่ายทั่วประเทศ และ Product line up ที่สมบูรณ์ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ของใช้สำหรับสัตว์ (Pet care) ที่หลากหลายเข้าถึงทุกความต้องการสำหรับสัตว์เลี้ยง
ในขณะที่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ยังเติบโตสูง โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตชัดเจนจากกิจกรรม คอนเสิร์ต รวมถึงเม็ดเงินโฆษณากลับสู่ระดับก่อน COVID-19 โดยรายได้คอนเสิร์ตและอีเวนท์ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในช่วงไตรมาส 3 นี้ ซึ่งมีทั้งคอนเสิร์ต Kamikaze Party Reunion 2023 และ คอนเสิร์ต HIT100 จากการ Across the Universe JV นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม on ground ครบทุกประเภท ทั้งมวย หมอลำ ดนตรีพื้นบ้าน ซึ่งจัดหมุนเวียนทั่วประเทศสร้างรายได้จาก Sponsorship มากกว่า 100 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ รายได้จากการขายสื่อโฆษณาในช่องทางทีวีดิจิทัลของช่อง 8 และสถานีเพลง COOLfahrenheit ยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก
“อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างธุรกิจกลุ่มคอมเมิร์ซใหม่เพื่อสร้างความชัดเจนของกลุ่มธุรกิจในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้แต่ละธุรกิจได้ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่แล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การจับมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ผ่านการ M&A และ JV ทำได้คล่องตัวยิ่งขึ้นอีกด้วย เชื่อว่าการขับเคลื่อนกลยุทธ์ที่แตกต่างของ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งเน้นความรวดเร็วและทันกับสถานการณ์ในโลกธุรกิจ จะเป็นแรงผลักสำคัญให้รายได้ของกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซแตะที่ 1.8 พันล้านบาท อีกทั้งภาพรวมของผลงานในไตรมาส 3 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งทางคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลพิเศษระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกปี 2566 ในอัตรา 0.60 บาทต่อหุ้น สะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท” คุณสุรชัย กล่าวปิดท้าย