KKPS ปรับเพิ่มคาดการณ์ “เบรนท์” ทะลุ 91 เหรียญ ชู PTTEP เด่น หนุนกำไรโตแกร่ง
KKPS ชี้ครึ่งปีหลังปรับเพิ่มคาดการณ์ “Brent” โต 12% ทะลุ 91 เหรียญ รับค่าการกลั่นเร่งตัว ดันราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น รวมถึงกันลดกำลังการผลิตของซาอุ และรัสเซียด้วยเช่นกันจากซัพพลายในตลาดโลกที่ยังตึงตัว ชู PTTEP เด่นมองราคาน้ำมันสูง ช่วยผลักดันแนวโน้มกำไรโตแกร่ง
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด มหาชน หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ในครึ่งหลังของปี 2566 เพิ่มขึ้น 12% จากเดิม 81 เหรียญต่อบาร์เรล เป็น 91 เหรียญต่อบาร์เรล และเชื่อว่า Brent จะเฉลี่ย 96 เหรียญต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ 4/2566 ส่วนปี 2567 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 90 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ปี 2568 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 80 เหรียญต่อบาร์เรล
นอกจากนั้นแล้วยังมีค่าการกลั่นที่เร่งตัวขึ้นเป็นส่วนช่วยดันราคาน้ำมันดิบให้สูงขึ้น รวมถึงกันลดกำลังการผลิตของซาอุ และรัสเซียด้วยเช่นกันจากซัพพลายในตลาดโลกที่ยังตึงตัว และการเติบโตของจีนที่จะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะทำให้น้ำมันสำรองลดลง 70 ล้านบาร์เรลในช่วงสามเดือนข้างหน้านี้
ทั้งนี้ มองว่าราคาน้ำมันที่สูงจะช่วยผลักดันแนวโน้มกำไรของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ทั้งในไตรมาส 3/2566 และไตรมาส 4/2566 จากน้ำมันดิบดูไบที่เฉลี่ย 86 เหรียญต่อบาร์เรล และราคาก๊าซเฉลี่ยอยู่ที่ 5.8 เหรียญต่อบาร์เรลต่อ 1 ล้าน BTU ส่วน Core NPAT ของไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะคงตัวในระดับสูงที่ 2 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้นแล้วยังคาดว่า Core NPAT จะขยับสูงขึ้นแตะ 2.3 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมด้อยค่า LNG โมซัมบิกจากการก่อสร้างที่ล่าช้า) ในไตรมาส 4/2566 หากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 96 เหรียญต่อบาร์เรล
นอกจากนั้นแล้วยังระบุว่า ราคาเนื้อก๊าซธรรมชาติจากระบบท่อของไทยในเดือนสิงหาคมนั้นอยู่ที่ 9.2 เหรียญต่อ 1 ล้าน BTU (ซึ่งตกลงจากจุดสูงสุดที่ 14.6 เหรียญต่อ 1 ล้าน BTU ในเดือนมีนาคม โดยราคาก๊าซในอ่าวไทยนั้นลดลงมาอยู่ที่ 5.4 เหรียญต่อ 1 ล้าน BTU ในขณะที่เมียนมาร์อยู่ที่ 9.5 เหรียญ/mmbtu
ทั้งนี้คาดว่าราคาเนื้อก๊าซธรรมชาติจากระบบท่อจะคงระดับอยู่ที่ 9.2 เหรียญต่อ 1 ล้าน BTU ในไตรมาส 4/2566 ก่อนจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 7.9 เหรียญต่อ 1 ล้าน BTU ในปี 2567 จากซัพพลายที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งก๊าซเอราวัณ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อ PTT จากแนวโน้มราคาเนื้อก๊าซธรรมชาติที่ลดลง