ORN ควง APM ปิดท้ายโรดโชว์กทม. ชูพื้นฐานแกร่ง ดึงความเชื่อมั่นนลท.
ORN ผนึกกำลัง APM ปิดท้ายโรดโชว์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 406.50 ล้านหุ้น เข้า SET ระดมทุนซื้อที่ดินพัฒนาโครงการใหม่ มั่นใจเสริมศักยภาพให้ธุรกิจ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า บริษัทฯ นำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) แห่งสุดท้าย ณ อาคาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรุงเทพฯ ก่อนจะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 406.50 ล้านหุ้น โดยก่อนหน้านี้ได้เดินสายโรดโชว์มาแล้ว 14 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรี ราชบุรี นครปฐม พิษณุโลก นครสวรรค์ เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา ซึ่งนักลงทุนทุกจังหวัด ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ไปโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนต่างประเทศได้แก่ สิงค์โปร์ และฮ่องกง โดยมีกระแสตอบรับที่ดี นักลงทุนให้ความสนใจหุ้น “อรสิริน” จำนวนมาก จากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมกำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ ORN เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ในเร็วๆ นี้
นายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ORN มีจุดเด่นสำคัญคือความเชี่ยวชาญการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่มากว่า 17 ปี ที่มีศักยภาพการเติบโตอีกมากในอนาคต รวมถึงมีโครงสร้างและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 406.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือ 27.10% ของทุนชำระแล้ว บริษัทจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนใน SET เพื่อเป็นเงินทุนในการลงทุนซื้อที่ดิน และนำไปพัฒนาโครงการ เสริมศักยภาพธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN กล่าวว่า บริษัทฯ และที่ปรึกษาทางการเงิน มุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทุกพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลลักษณะธุรกิจ พื้นฐานทางการเงินและโอกาสการเติบโต เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจถึงศักยภาพขององค์กรในภาวะที่ตลาดทุนและสภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตได้ พิสูจน์จากช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดอสังหาฯชะลอตัว แต่ยอดขายโควตาต่างชาติ (Foreign Quota) ของบริษัทฯ ยังเต็มทุกโครงการ สะท้อนถึงคุณภาพโครงการที่มีมาตรฐานสากล ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยและต่างชาติได้ตรงจุด จนเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับบริษัทฯ ควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีความสามารถในการทำกำไรสูง ทั้งนี้บริษัทฯ มีความมั่นใจอย่างยิ่งในการเดินหน้านำบริษัทฯ เข้าซื้อขายใน SET เพื่อขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง และสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต
