MASTER ปิดบวก 4% เก็งงบ Q3 “นิวไฮ” โบรกแนะซื้อเป้า 78 บาท
MASTER ปิดบวก 4% เก็งงบไตรมาส 3/66 นิวไฮ แตะ 98 ล้านบาท โบรกแนะซื้อเป้า 78 บาท พร้อมแย้มครึ่งปีหลังผลงานเด่น จ่อปิด 3 ดีลร่วมทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ต.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ณ เวลา 16:24 น. อยู่ที่ระดับ 56.00 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 3.70% สูงสุดที่ระดับ 56.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 54.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58.62 ล้านบาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า MASTER แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 78.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 3-4/66 ทำระดับ New High คาดกำไรไตรมาส 3/66 ทำระดับ New High ที่ 98 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 20.2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 15.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดรายได้ที่ 491.30 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 22.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้คาด Utilization rate ในไตรมาส 3/66 ที่ 70% และคาดว่าในไตรมาส 4/66 จะมี Utilization rate ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะสามารถทำกำไรนิวไฮ New High ได้ต่อเนื่อง คาด NPM ในไตรมาส 3/66 ที่ 20.0% ปรับตัวสูงขึ้นจากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น และฐานรายได้ที่สูงขึ้น
โดยปรับคาดการณ์กำไรปี 2566-2567 ลงมาอยู่ที่ 380 ล้านบาท และ 507 ล้านบาท ตามลำดับ โดยปี 2567 คาดมีกำไรเติบโต 33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการให้บริการ OR ใหม่เต็มปีเป็นปีแรก และเริ่มมีฐานลูกค้าต่างชาติที่สูงขึ้นแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 78.00 บาท จากการอิงผลประกอบการปี 2567
โดยก่อนหน้านี้นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 2566 จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,490.36 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการมีห้องผ่าตัดที่เพิ่มขึ้น และมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกหัตถการ โดยมั่นใจครึ่งปีหลังทิศทางสดใส จากความพร้อมในการให้บริการ และการเพิ่มจำนวนห้องผ่าตัดใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าด้านศัลยกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER เน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) โดยพิจารณา 3 ปัจจัยหลักในการเข้าพิจารณาลงทุนกับพันธมิตร ได้แก่ 1.กิจการหรือธุรกิจที่เจ้าของเดิมบริหารและต้องการเติบโตไปด้วยกัน 2.กิจการหรือธุรกิจท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงและความสัมพันธ์ที่ดีในพื้นที่นั้น ๆ และ 3.กิจกรรมหรือธุรกิจการทำงานมีร่วมกัน (Synergy) กับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซได้ในทิศทางเดียวกัน
“MASTER มีนโยบายชัดเจน ที่จะเติบโตร่วมไปกับบริษัท หรือธุรกิจที่เข้าไปถือหุ้น อีกทั้งการเข้าไปลงทุนต่าง ๆ เพื่อต้องการสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเพื่อการร่วมทุน เนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งทางด้านระบบและการจัดการ โดยมีกลยุทธ์เข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และเป็นกิจการระดับแนวหน้าในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการขยายฐานของลูกค้าให้กว้างขึ้น หรือการขยายเพื่อออกไปให้บริการลูกค้า” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ MASTER มีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอและพร้อมในการขยายและการเข้าซื้อกิจการที่สร้างการเติบโต โดยส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันดีลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และทำให้ MASTER เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นผลจากการที่บริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งเปิดโอกาสให้ MASTER ได้พบกับเจ้าของกิจการที่มี Synergy ร่วมกัน จึงเป็นดีลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ด้านนางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2566 บริษัทได้เข้าไปลงทุนกิจการทั้งหมด 4 แห่ง โดยแบ่งเป็นธุรกิจเสริมความงาม 3 แห่ง ได้แก่ 1.คลินิกเสริมความงามภายใต้ชื่อ WIND Clinic ด้วยการเข้าลงทุน 40% 2.Rattinan Medical Center ถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 36% และ 3.บริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40%
นอกจากนี้ บริษัทยังเข้าลงทุนธุรกิจสื่อ คือบริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) ซึ่งภายหลังจากการเข้าถือหุ้น KIN Corp. เสร็จสมบูรณ์ MASTER พร้อมให้การสนับสนุน KIN Corp. ในทุก ๆ ด้าน โดยคาดว่า KIN Corp. จะเริ่มสร้างผลกำไรให้ MASTER ได้ในไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป และจะรับรู้กำไรเข้าเต็มปี 2567 เป็นปีแรก ทั้งนี้บริษัทคาดว่าช่วงที่เหลือของปี 2566 ของ MASTER มีโอกาสร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างน้อยอีก 3 ราย โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน
“ก่อนหน้านี้ MASTER ได้เข้าไปถือหุ้นแล้ว 4 บริษัท รวมทั้งปีนี้จะเห็นเบ็ดเสร็จ 7 ดีล โดย WIND Clinic ปัจจุบันมี 2 สาขาในกรุงเทพฯ และอุบลราชธานี ซึ่งคาดว่ากระบวนการเข้าลงทุนในครั้งนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2566 จะเข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัท โดยจะบันทึกเข้ามาในรูปแบบของส่วนแบ่งกำไร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2566 ขณะที่ Rattinan คาดว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2566 ส่วน Dr.Chen Clinic คลินิกศัลยกรรมความงามครบวงจร ที่ให้บริการความงาม ปัจจุบันอยู่ระหว่างตกแต่งภายใน” นางสาวลภัสรดา กล่าว
ขณะที่บริษัทมีแผนย้ายเข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในอนาคต หลังกองทุนต่างประเทศแสดงความสนใจเข้าลงทุนใน MASTER เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกองทุนจากฮ่องกง สิงค์โปร์ ซึ่งบริษัทมีแผนเติบโตไปในต่างประเทศด้วยในระยะกลางและยาว โดยไม่ได้มองการลงทุนระยะสั้นเพียงอย่างเดียว ขณะที่ฟรีโฟลตในปัจจุบันถือว่าน้อย ดังนั้นการดำเนินการแบบนี้จะเปิดทางให้กองทุนเข้ามาถือหุ้นได้ ในส่วนของการบริการกับลูกค้าต่างชาตินั้น จะเพิ่มมากขึ้นหลังประเทศเปิดฟรีวีซ่า และสัดส่วนปัจจุบันเพิ่มต่อเนื่องจาก 6% เป็น 25% ในปัจจุบัน