สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ต.ค.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ต.ค.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ (11 ต.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนหนึ่งสนับสนุนให้ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,804.87 จุด เพิ่มขึ้น 65.57 จุด หรือ +0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,376.95 จุด เพิ่มขึ้น 18.71 จุด หรือ +0.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,659.68 จุด เพิ่มขึ้น 96.83 จุด หรือ +0.71%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (11 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ที่พุ่งขึ้นขานรับข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับยาโอเซมปิก (Ozempic) ซึ่งเป็นยารักษาโรคเบาหวาน แต่การร่วงลงของหุ้นแอลวีเอ็มเอช (LVMH) สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 453.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,131.21 จุด ลดลง 31.22 จุด หรือ -0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,460.01 จุด เพิ่มขึ้น 36.49 จุด หรือ +0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,620.03 จุด ลดลง 8.18 จุด หรือ -0.11%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (11 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ และหุ้นเบอร์เบอรีปรับตัวลงตามหุ้นแอลวีเอ็มเอช (LVMH) ของฝรั่งเศสที่ปรับตัวลงหลังเปิดเผยผลกำไรชะลอตัว
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,620.03 จุด ลดลง 8.18 จุด หรือ -0.11%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (11 ต.ค.) หลังจากซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ให้คำมั่นว่าจะ
พยายามป้องกันการลุกลามของสถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลาง รวมทั้งจะสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านอุปทานน้ำมันลดน้อยลง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 2.48 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 83.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.83 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 85.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ (11 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าว
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 0.64% ปิดที่ 1,887.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.00 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 22.133 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 893.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1170.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (11 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนก.ย.ซึ่งบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.01% แตะที่ระดับ 105.8195
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร, ปอนด์ และฟรังก์สวิส แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน, ดอลลาร์แคนาดา และโครนาสวีเดน
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0608 ดอลลาร์สหรัฐในวันพุธ (11 ต.ค.) จาก 1.0598 ดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร (10 ต.ค.) และปอนด์แข็งค่าแตะ 1.2305 ดอลลาร์สหรัฐจากระดับ 1.2280 ดอลลาร์