ตลท.บี้ OTO แจงงบฯ 6 เดือน ผู้สอบบัญชีพบ “มัดจำค่าซื้อที่ดิน-เงินกู้ยืม” ก่อนบอร์ดเคาะ

ตลท.เตือนศึกษาข้อมูล OTO ก่อนลงทุน สั่งแจงงบการเงินงวด 6 เดือน ปี 2566 ปมซื้อที่ดิน-ขาดทุนเงินลงทุน-ปล่อยกู้ “วาวแฟคเตอร์” รวมวงเงินกว่า 374 ล้าน ภายใน 26 ต.ค.นี้


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ขอให้บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินงวด 6 เดือน ปี 2566 ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการที่บริษัทจ่ายเงินมัดจำค่าซื้อที่ดินก่อนที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ทำสัญญาจะซื้อจะขายซื้อที่ดิน 140 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทมีขาดทุนสุทธิ 96 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียน 134 ล้านบาท และยังมีรายการเงินให้กู้ยืม 100 ล้านบาทแก่บริษัทจดทะเบียนอีกแห่งหนึ่งที่บริษัทลงทุนและมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน

ทั้งนี้ ให้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 26 ตุลาคม 2566 และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ OTO และติดตามคำชี้แจงของบริษัท

สำหรับสรุปข้อมูลในงบการเงิน 6 เดือน ปี 2566 มี 3 รายการที่ให้ชี้แจงโดยมีรายละเอียดังนี้

1.รายการจ่ายเงินซื้อที่ดิน มูลค่า 140 ล้านบาท ลักษณะรายการปรากฏในรายงานของผู้สอบบัญชีซึ่งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการจ่ายเงินมัดจำซื้อที่ดิน 50 ล้านบาท ก่อนที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินมูลค่า 140 ล้านบาท

บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งและก่อสร้างอาคารสำนักงานของบริษัทในอนาคตแทนการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในปัจจุบัน โดยที่บริษัทยังไม่ได้สรุปงบประมาณในการก่อสร้างที่แน่นอน รวมถึงยังไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนในการเริ่มก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่และวันที่จะยกเลิกเช่าอาคารสำนักงานในปัจจุบัน (รายละเอียดตามข่าว SETSMART วันที่ 1 กันยายน 2566)

2.รายการขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนมูลค่า 134 ล้านบาท โดยงวด 6 เดือนปี 2566 บริษัทมีขาดทุนจากการนำเงินไปลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียน และจากการที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าผลขาดทุนประกอบด้วย 1.ขาดทุน 15 ล้านบาท จากการขายหุ้น บมจ.วาวแฟคเตอร์ (W) เป็นหลัก และ 2.ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน 119 ล้านบาท ได้แก่ W และ W-W5 รวม 96 ล้านบาท, SA และ SA-W1 รวม 11 ล้านบาท ,PSTC 5 ล้านบาท และ WAVE 7 ล้านบาท (ในระหว่างปี 2565 บริษัทจ่ายเงินซื้อตราสารทุน 266 ล้านบาท โดยมีขาดทุนจากการลงทุน 140 ล้านบาท)

ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยนโยบายการลงทุนซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการในเดือนพฤศจิกายน 2564 และเดือนสิงหาคม 2565 ว่า บริษัทมุ่งเน้นการบริหารเงินสด และให้ความสำคัญในเรื่องความสมดุลระหว่าง “ความปลอดภัยของเงินต้น” กับ “ผลตอบแทนจากการลงทุน”  (รายละเอียดตามข่าว SETSMART วันที่ 22 สิงหาคม 2566)

3.รายการเงินให้กู้ยืมแก่ W มูลค่า 100 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เงินกู้ยืมแก่ W อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี กำหนดเวลา 6 เดือน มีหลักประกันคือ หุ้นบริษัทย่อยของ W จำนวน 2 บริษัท ซึ่งมีขาดทุนสุทธิในปี 2564 – ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 แต่มีราคาประเมินรวม 284 ล้านบาท บริษัทเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า แหล่งเงินทุนที่ให้กู้มาจากเงินทุนหมุนเวียนและจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ OTO-W1 ซึ่งบริษัทจะมีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัท และรองรับการขยายการลงทุน ในอนาคต แต่เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนอีกหลายโครงการซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ จึงทำให้มีเงินสดส่วนเกินที่ยังไม่ใช้ และเป็นไปตามนโยบายการลงทุนของบริษัท (รายละเอียดตามข่าว SETSMART วันที่ 27 กรกฏาคม 2566)

ทั้งนี้ประเด็นที่ขอให้บริษัทชี้แจง : รายละเอียดของรายการ อำนาจการอนุมัติการทำรายการ การดำเนินการตามนโยบายการลงทุน การบริหารความเสี่ยง รวมทั้งขอให้อธิบายข้อมูลที่คณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบใช้ในการประกอบการพิจารณาพร้อมเหตุผลของคณะกรรมการในการอนุมัติทำรายการตามข้อ 1-3 ว่าได้พิจารณาอย่างระมัดระวังเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน สภาพคล่อง และฐานะการเงินของบริษัทอย่างไร

Back to top button