“เอกภาวิน” คัด 5 หุ้นน่าลงทุน ลุ้นกำไรไตรมาส 3 โตเด่น
“เอกภาวิน สุนทราภิชาติ” ประเมิน SET ปรับตัวลง หลังวิตกสงครามอิสราเอลขยายวงกว้าง หนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งพร้อมแนะ “Selective Buy” 5 หุ้นน่าลงทุน นำโดย BBL-KTB-TOP-BCP-BDMS คาดว่ากำไรไตรมาส 3/66 เติบโตเด่น
นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสก์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (16 ต.ค. 66) ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยลบจากการที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนก.ย. 66 สูงกว่าคาด และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
รวมถึงความตรึงเครียดจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่อาจลุกลาม หลังอิหร่านออกมาเตือนอิสราเอลผ่านทางสหประชาชาติ (UN) ไม่ให้เริ่มปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินในฉนวนกาซาที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสควบคุม หากอิสราเอลยังดำเนินการต่อ อิหร่านก็พร้อมเข้าแทรกแซง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เป็นปัจจัยกดดันดัชนีตลาดหุ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำใช้การ “Selective Buy” โดยเน้นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 โดดเด่น ทนทานต่อภาพตลาดผันผวนหรือยังมีดาวไซด์จากปัจจัยหลักที่กดดันได้อยู่ อาทิ กลุ่มธนาคาร โดยมีการปรับตัวขึ้นสวนตลาดได้ในบางวันและผลการทำงานเติบโตดีที่สุดในไตรมาส 3/66 คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
รวมถึงกลุ่มพลังงาน คือ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP โดยมีผลการดำเนินงานและกำไรดีที่สุดของปี และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และกลุ่มโรงพยาบาล โดยได้รับอานิสงส์จากช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 3/66 คือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS
“ทั้งนี้ แนะนำเฝ้าระวังหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว จากเหตุการณ์สยามพารากอน ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย แต่คาดว่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในไฮซีซั่นนี้ จึงแนะนำเป็นภาพของการลดพอร์ตไปก่อน” นายเอกภาวิน กล่าวทิ้งท้าย