กสทช. ปรับสิทธิใช้ “วงโคจรดาวเทียม” ชุด 1,5 เพิ่มทางเลือกเอกชน

กสทช. เปิดประชุมรับฟังความเห็น ปรับแนวทางให้สิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมชุดที่ 1 ตำแหน่ง 50.5 E และ 51 E และ ชุดที่ 5 ที่ 142 E เพิ่มทางเลือกเอชน หลังไม่มีผู้ประสงค์ขอใช้งาน เพื่อรองรับการเปิดตลาดหลังเข้าสู่ระบบการอนุญาต


สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ฉบับที่ 2 พ.ศ. …. เพื่อรองรับการเปิดตลาดหลังเข้าสู่ระบบการอนุญาต

โดยตามที่ กสทช.ชุดที่แล้วได้ออกประกาศ แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ฉบับที่ 1 มาตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 และกสทช.ชุดปัจจุบันได้ดำเนินการจัดให้มีการประมูลสำหรับการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566 ทำให้กิจการดาวเทียมสื่อสารได้เปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานไปสู่ระบบใบอนุญาต เกิดการเปิดตลาดและการแข่งขันอย่างเสรี

อย่างไรก็ตาม ในการจัดให้มีการประมูลที่ผ่านมายังคงมีสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอีก 2 ชุด ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการที่ประสงค์จะใช้งาน ได้แก่ ชุดที่ 1 ที่ตำแหน่ง 50.5 E และ 51 E  และ ชุดที่ 5 ที่ 142 E

สำหรับประเด็นหลักในการปรับปรุงแก้ไขและนำมารับฟังความคิดเห็นที่สำคัญ สรุปคือ

  1. แนวทางการรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมขั้นสมบูรณ์ ที่แนวทางการดำเนินการอนุญาตของ กสทช. ในแผนฯ เดิม กำหนดให้ มีการ “คัดเลือก” ผู้ประกอบการหรือหน่วยงาน (Satellite Operator) ที่ประสงค์จะใช้งาน ในแผนฯ ใหม่ แก้ไขเป็น มีการ “คัดเลือกหรือจัดสรรโดยวิธีการอื่นตามที่ กสทช. กำหนด” เพื่อให้มีทางเลือกวิธีการอนุญาตที่หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมดาวเทียมและส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบกิจการดาวเทียมได้มากรายขึ้น
  2. การนำข่ายงานดาวเทียมมาอนุญาต ในแผนฯ เดิม กำหนดให้ กสทช. ต้องนำข่ายงานดาวเทียมที่เข้าข่ายตามกรณีดังกล่าว มาจัดชุด (Package) ในแผนฯ ใหม่ สามารถนำมาคัดเลือกหรือจัดสรรได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องจัดเป็นชุด เนื่องจากคงเหลือข่ายงานดังกล่าวไม่มาก เพื่อการอ่อนตัวในการคัดเลือกหรือจัดสรร อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ทั้งในทางเทคนิคและทางธุรกิจรวมทั้งด้านความมั่นคง เช่นเดิม
  3. การปรับปรุงรายละเอียดสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมให้เป็นปัจจุบัน ทั้งประเภทวงโคจรดาวเทียมประจำที่ (Geostationary Orbit: GSO) และประเภทวงโคจรดาวเทียมไม่ประจำที่ (Non-Geostationary Orbit: NGSO) ที่ประเทศไทยต้องดำเนินการตามข้อบังคับวิทยุของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เพื่อให้ได้รับมาดำเนินการให้ข้อมูลในแผนฯ ใหม่ ถูกต้องเป็นปัจจุบัน ทั้งในส่วนของสิทธิขั้นต้นและสิทธิขั้นสมบูรณ์

ขณะที่พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกสทช. กล่าวว่า การปรับปรุงแผนบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะเป็นแนวทางในการนำไปสู่การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตสิทธิวงโคจรที่เหลือ โดยที่ กสทช.ต้องสร้างสมดุลระหว่างการรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ และการให้ได้มาซึ่งผู้ประกอบการหรือหน่วยงานที่ประสงค์จะใช้งานโดยที่รัฐไม่เสียผลประโยชน์ รวมทั้งแผนฯ ดังกล่าวก็ต้องเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศหรือข้อบังคับของ ITU ที่เป็นไปตามหลักสากล และสอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายแต่ก็ต้องดำเนินการ

ทั้งนี้ การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในวันนี้ ได้รับข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อจะได้นำมาใช้ในการปรับปรุงแผนฯ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป

Back to top button