“ก.ล.ต.” เพิกถอนไลเซนส์มาร์เก็ตติ้ง “กรุงไทย” ฐานยักยอกทรัพย์นักลงทุน

“ก.ล.ต.” สั่งเพิกถอนไลเซนส์มาร์เก็ตติ้งธนาคารกรุงไทย เป็นเวลา 9 ปี 12 เดือน เหตุปฏิบัติหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์ และยักยอกทรัพย์นักลงทุน นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2566


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  เปิดเผยว่า ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนรายนางสาวเสาวรัตน์ บุญชู เป็นเวลา 9 ปี 12 เดือน กรณีปฏิบัติหน้าที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

โดยก.ล.ต. ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทยและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นางสาวเสาวรัตน์กระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยขายกองทุนของลูกค้าที่ไม่ใช่ความประสงค์ของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย เป็นเงินรวม 1,027,000 บาท โดยมีพฤติกรรม ดังนี้

(1) ใช้บัตรประชาชนที่ลูกค้าได้ฝากไว้ใช้ในการยืนยันตัวตนและใช้รหัสผ่านของพนักงานที่มีอำนาจอนุมัติในการอนุมัติรายการขายหน่วยลงทุน และใช้บริการ Internet banking ในบัญชีของลูกค้าในการโอนเงินค่าขายหน่วยลงทุนออกจากบัญชีเงินฝากของลูกค้าไปยังบัญชีเงินฝากของตนเองเพื่อนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว

(2) โอนเงินฝากของลูกค้าเพิ่มเติมจากกรณีดังกล่าวข้างต้นไปยังบัญชีเงินฝากของตนเอง ซึ่งทำในวันเดียวกันนี้

ทั้งนี้ นางสาวเสาวรัตน์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ลูกค้าดังกล่าวครบถ้วนแล้ว

โดยก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางสาวเสาวรัตน์ตาม (1) เป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และตาม (2) เป็นความผิดฐานมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญซึ่งทั้งสองกรณีเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน*

ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2** และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไปของนางสาวเสาวรัตน์ เป็นเวลา 9 ปี 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2566***

ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ก.ล.ต.ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุนและบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ และไม่ฝากเอกสารสำคัญไว้กับผู้แนะนำการลงทุน กรณีมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ หรือสอบถามได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือ เฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.

Back to top button