จับตา 3 หุ้น “ลิสซิ่ง” กำไรไตรมาส 3 แกร่ง! ลุ้น SAWAD โตสุด 25%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทยอยรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลังจากปิดงวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566  ทั้งนี้  “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำเร็จหลักทรัพย์ในกลุ่ม “ลิสซิ่ง” ว่าด้วยนักวิเคราะห์ประเมินผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 คาดว่าเติบโตแข็งแกร่งทั้งไตรมาสก่อนหน้า และเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ได้แก่  MTC, SAWAD และ TIDLOR

ด้าน บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2566 ของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.9% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่ารายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่น่าจะเร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา และจะยังทำให้กำไรเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะคาดการณ์ว่าต้นทุนดอกเบี้ย และการตั้งสำรองจะเพิ่มขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตามมีการปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 2567 ที่ 42.50 บาท และยังคงแนะนำ “ซื้อ” ซึ่งมีส่วนต่างเหลืออยู่พอสมควร

นอกจากนี้ บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มไตรมาสไตรมาส 3 ปี 2566 คาดการณ์ว่า บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD จะมีสินเชื่อเติบโตต่อส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงจะรับรู้รายได้จากเงินสดทันใจที่ซื้อคืนมาจากธนาคารออมสินเต็มไตรมาสเข้ามาช่วยหนุนให้กำไรเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

ขณะเดียวกันยังคาดการณ์ว่าบริษัทฯมีการตั้งสำรองจะลดลงหลังจากไตรมาสก่อน ซึ่งมีการตั้งสำรองสำหรับการเสื่อมค่าของหลักประกันที่เกิดจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และธุรกิจในเวียดนามซึ่งจะไม่มีอีกในไตรมาสนี้ ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีกำไรในไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 29.70% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 2567 ที่ 63 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ยังมีส่วนต่างอยู่พอสมควร

 ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2566 ของ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR อยู่ที่ 942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 1.6 % จากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดการณ์เติบโตของเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 19.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 4% จากไตรมาสก่อนหน้าเป็น 90,700 ล้านบาท ส่วนต้นทุนเครดิต (credit cost) อยู่ที่ 3% ในไตรมาส 3 ปี 2566 เมื่อเทียบกับทั้งปี 2566 คาดการณ์อยู่ที่ 3.15% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 56.7% ในไตรมาส 3 ปี 2566 เมื่อเทียบกับทั้งปี 2566 คาดการณ์อยู่ที่ 55.3%