TRP เทรดวันแรก ลุ้นวิ่งเป้า 26 บ. ชูกำไรปี 66-67 โตเฉลี่ย 48%

ลุ้น IPO ป้ายแดง TRP ลงสนามเทรด mai วันนี้วันแรก มั่นใจเหนือจอง 14 บาท โบรกฯประเมินราคาเหมาะสมเป้าสูง 26 บาท ตอกย้ำผู้นำให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าครบวงจร มั่นใจศักยภาพธุรกิจเติบโตแกร่ง หลังระดมทุนกว่า 1.26 พันล้านบาท ลุยก่อสร้างโรงพยาบาลฯ-จัดซื้อเครื่องมือ-อุปกรณ์ทางการแพทย์ตามแผน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ต.ค.66) หุ้นสามัญของบริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP เปิดเผยว่า TRP จะเข้าซื้อขายในนตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก ในกลุ่มบริการ โดยมีทุนชำระแล้วหลัง IPO 175 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 260 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 67.5 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 13.5 ล้านหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 9 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาในราคาหุ้นละ 14.00 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 1,260 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,900 ล้านบาท

ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 21.12 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ก.ค. 65 ถึง 30 มิ.ย. 66)  ซึ่งเท่ากับ 232 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.66 บาท โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

ด้านนายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ยินดีต้อนรับ TRP เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ วันนี้(24 ต.ค.)เป็นวันแรก โดย TRP ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรมภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” เพื่อให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป เช่น การผ่าตัดดึงหน้า (Face-Lock) การผ่าตัดตาสองชั้น การผ่าตัดเสริมจมูก และบำรุงผิวพรรณ ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ผู้มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มายาวนานกว่า 40 ปี บริษัทมีรายได้หลักจากการให้บริการศัลยกรรมความงามร้อยละ 97

โดยปัจจุบันธีรพรคลินิกเปิดให้บริการในอาคารสำนักงาน 5 ชั้น บนถนนเจริญนคร เขตคลองสาน มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,157 ตารางเมตร มีห้องผ่าตัด 6 ห้อง ห้องให้คำปรึกษา 3 ห้อง และทีมแพทย์ 26 ท่าน นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงพยาบาลสำหรับศัลยกรรมความงาม บนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เขตธนบุรี ซึ่งจะมีพื้นที่ใช้สอย 9,918 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 922 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4 ปี 2567

ด้านนพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRP เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นความเป็นเลิศด้านการดูแลความงามบนใบหน้า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และยังคงมุ่งมั่น พัฒนาเทคนิคการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง ผ่านประสบการณ์การผ่าตัดที่มากขึ้นร่วมกับสนับสนุนทีมแพทย์ให้ทำงานวิจัยและเข้าร่วมสัมมนาต่างประเทศ โดยเป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด ทั้งการดึงหน้า ตาและจมูก เพื่อสร้างชื่อเสียงและสร้างความเชื่อมั่นว่า ทีมแพทย์ของบริษัทเป็นผู้นำด้านการผ่าตัดบนใบหน้าในระดับภูมิภาคเอเชีย

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปลงทุนโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลฯ จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ TRP มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลังเข้าจดทะเบียน คือ กลุ่มครอบครัวจิรยั่งยืน ถือหุ้น 65.57% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี

ขณะที่ผลการดำเนินงานโดดเด่น โดยปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 221 ล้านบาท 427 ล้านบาท และ 854 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท 112 ล้านบาท และ 270 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้รวม 369 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 TRP จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สามารถสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาวและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้า และกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมมองว่า การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 TRP มีแนวโน้มเติบโตที่ดี สะท้อนภาพการเป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock สอดรับกับการฟื้นตัวในภาพรวมของเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศขณะนี้

ทั้งนี้ภายหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปแล้ว ขอให้นักลงทุนมั่นใจในเสถียรภาพ กลยุทธ์การลงทุนและการบริหารงานของ TRP โดยกลุ่มผู้บริหารของบริษัท และบริษัท สานฝันโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่มีการขายหุ้นออกมาในตลาดหลัง IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน

ด้านนายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า หลังจากเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 14 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นครบทั้งหมด สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งของบริษัท และมองเห็นศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้โบรกเกอร์เคาะราคาเป้าหมาย TRP เฉลี่ย 21-26 บาทต่อหุ้น โดยชูจุดเด่นด้านศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย โดยจากมุมมองโบรกเกอร์ 6 แห่ง ที่ได้ Company Visit และจัดทำบทวิเคราะห์ออกมาและให้ราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานไว้ค่อนข้างสูงจากราคาจองที่ 26 บาท ดังนี้

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)  นักวิเคราะห์ได้ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 26 บาท ประเมินด้วยวิธี DCF เทียบเท่ากับ P/E 67 ที่ 35 เท่า ใกล้เคียงกับ Forward P/E ปี 2567 ของ MASTER โดยคาดกําไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้า (2567- 2569) จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 17.1% สอดคล้องกับที่คาดการณ์ว่าธุรกิจศัลยกรรมความงามของประเทศไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าเริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2567

ทั้งนี้ TRP มีจุดแข็งที่ผู้ก่อตั้งและทีมแพทย์ โดยผู้ก่อตั้งคือ นาวาโทหญิงสุวรรณี จิรยั่งยืน ร.น. และครอบครัว พร้อมมีผู้นําทีมแพทย์และที่ปรึกษา คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียงในวงการมายาวนาน รวมทั้งเป็นที่ปรึกษา และเป็นอาจารย์ถ่ายทอดความรู้เทคนิคให้แก่ทีมแพทย์ธีรพร

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ได้ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ของ TRP ได้ที่ 22 บาท ด้วยวิธี PER โดยอิง PER ที่ 29 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของ peer กลุ่มโรงพยาบาลขนาดเล็ก และ MASTER, KLINIQ โดยประเมินกำไรปี 2563-2567 จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 48% เติบโตโดดเด่นหลังเปิดประเทศ โดย TRP เป็นผู้นำด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้า และกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแห่งแรกในประเทศไทย

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ได้ประเมินราคาเป้าหมายของ TRP ปี 2567 ที่ 23 บาท คิดเป็น Imply P/E ปี 2567 ที่ 31 เท่า โดย related PE ที่ระดับ Premium กลุ่มฯ เนื่องด้วย TRP  มีจุดเด่น คือ 1 มีมาตรฐานการให้บริการสูง ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง มีเทคนิคผ่าตัดที่คิดค้นขึ้นเองและมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน และ2. มีการขยายศักยภาพให้บริการเป็นโรงพยาบาลทำให้มีกำลังการให้บริการเพิ่มขึ้นเท่าตัวรองรับการเติบโตระยะยาว และการเสริมความงามที่ผู้ใช้บริการจะกลับมาใช้บริการซ้ำ ซึ่งมีอัตราทำกำไรสูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาล

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด นักวิเคราะห์ได้ประเมินราคาเป้าหมาย ด้วยวิธี PEG Ratio ที่ 1 เท่า เพื่อสะท้อนถึงความสามารถในการเติบโตของผลประกอบการ โดยคาดว่ากำไรปี 2564-2567 จะเติบโตเฉลี่ย 33% จากปีก่อนหน้า และคาดกำไรต่อหุ้นปี 2567 ที่ 0.76 บาทต่อหุ้น จึงได้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 25 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ได้ประเมินราคาเป้าหมาย 25 บาท ด้วยวิธี PE multiple ใช้กำไรต่อหุ้นปี 2567 ที่ 0.84 บาท กำหนดเป้าหมาย P/E ปี 2567 ที่ 25 เท่า อิงกับค่าเฉลี่ยการซื้อขายของบริษัทที่มีลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกับบริษัทฯ ซึ่งต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 5 ปีของกลุ่มบริการ (Service) ที่ประกอบธุรกิจคล้ายกันที่สูงถึง 38 เท่า

บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ได้ประเมินราคาเป้าหมายในปี 2567 ของ TRP ที่ราคา 21 บาท อิง Targeted P/E 27.5 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยการซื้อขายระหว่างหุ้นผู้ประกอบการกลุ่มการแพทย์ขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงหุ้นกลุ่มบริการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ mai ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับการแพทย์

Back to top button