SET สัปดาห์นี้ “ลุ้นฟื้นตัว” จับตาตัวเลขศก.สหรัฐ-ส่งออกไทยเดือนก.ย.
“บล.กรุงศรี พัฒนสิน” ชี้ SET สัปดาห์นี้ “ลุ้นฟื้นตัว” จับตาตัวเลขศก.สหรัฐ-ส่งออกไทยเดือนก.ย.พ่วงความคืบหน้านโยบาย “แจกเงินดิจิทัล” และติดตามรายงานกำไรรายกลุ่มไตรมาส 3/66 ชู BBL-KBANK-TASCO หุ้นเด่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (24-27 ต.ค.66) จากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ KCS โดยประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ “ลุ้นฟื้นตัว” โดยแนะนำติดตามความเสี่ยงวงจรดอกเบี้ย “Higher for Longer” ที่เป็นแรงกดดันหลัก ผ่านรายงานชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯอาทิ PMI เดือน ต.ค.2566 (เบื้องต้น) หากเป็นภาพค่อยๆอ่อนตัวลงตามที่ตลาดคาด ซึ่งมองเป็นไปได้ หากอิงสัญญาณชี้นำความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯพลิกกลับมาลง และต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
โดยแนวโน้มดังกล่าวจะช่วยชะลอบอนด์ยีลด์ที่เร่งขึ้นและกดดันสินทรัพย์เสี่ยงช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผสาน SET อยู่ในโซนลงทุน PBV1.4 เท่า ค่าเฉลี่ย -1.5 S.D. มองมีโอกาสเริ่มเห็นหุ้น Big Cap อาทิ AOT, BBL, KBANK, GULF, PTTEP, PTT, SCGP,TOP, CPALL, ADVANC เริ่มฟื้นตัวนำตลาด
ส่วนหุ้นเด่นสัปดาห์นี้: แนะนำ BBL, KBANK, TASCO โดยแนะนำ BBLราคาเป้าหมาย 220 บาท บวกจากดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงอีกระยะ ผสานภายในฟื้นหนุน และ KBANK แนะนำราคาเป้าหมาย 155 บาท บวกจากดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงอีกระยะ คุณสินทรัพย์มีสัญญาณดีขึ้นหนุน ส่วน TASCO แนะนำราคาเป้าหมาย 21.3 บาท กลับมาซื้อแหล่งน้ำมันราคาถูกจากเวเนซูเอล่าได้ หนุนฟื้นเร่ง
นอกจากนี้มีปัจจัยที่น่าจับตาโดยวันที่ 24 ต.ค. ติดตาม PMI ภาคผลิตสหรัฐเดือน ต.ค. 2566(เบื้องต้น) ตลาดคาด 49.5 จุด เทียบprev. 49.8 จุด และติดตาม PMI ภาคบริการ (เบื้องต้น) ตลาดคาด 49.4 จุด และเทียบprev. 50.1 จุด และ 25 ต.ค.ติดตามยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.2566 ตลาดคาด +1.3%เทียบเดือนก่อนหน้า6.84 แสนหลัง
นอกจากนี้ 26 ต.ค.ติดตาม GDP งวดไตรมาส 3/66 สหรัฐ (ครั้งที่ 2) ตลาดคาด +4.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และเทียบ prev. +2.1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า แล 27 ต.ค. ติดตามเงินเฟ้อ PCE ทั่วไปเดือนก.ย. 2566 ตลาดคาด +3.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ prev.3.5% เทียบเดือนก่อนหน้าส่วนเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานสหรัฐ ตลาดคาด +0.3% เทียบเดือนก่อนหน้า และเทียบ prev. +0.4% เทียบเดือนก่อนหน้า
ส่วนวันที่ 26 ต.ค. ติดตามประชุม ECB ตลาด และ MUFG คาดคงดอกเบี้ย Deposit Facility Rate ที่ 4.00% และเป็น Terminal Rate แล้ว และติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส และในจีน 27 ต.ค.2566 ติดตามกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.2566 ไม่มีคาด ส่วน prev. +17.2%
ขณะที่ในประเทศ 23-28 ต.ค. ติดตามส่งออกไทยเดือน ก.ย.2566 ตลาดคาด -2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (prev. +2.6%) และ 24 ต.ค. ติดตามความคืบหน้านโยบาย Digital Wallet เป็นการประชุมคณะอนุกรรมการครั้งที่ 3 และคณะกรรมการชุดใหญ่วันเดียวกัน นอกจากนี้ติดตามรายงานกำไรไตรมาส 3/66 หุ้น Real Sector อาทิ SCGP, SCC,DELTA, PTTEP มองหุ้นน่าเก็งกำไร กลุ่มกำไรจะดี PTTEP ผ่านจุดต่ำสุด SCGP