WINDOW เทรดพรุ่งนี้! มั่นใจกระแสแรง ขานรับพื้นฐานแกร่ง

WINDOW พร้อมเข้าเทรด 25 ต.ค. นี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Innovation Window and Door System ทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบสำเร็จรูป-สั่งผลิต ภายใต้ตราสินค้าบริษัท-คู่ค้า พร้อมครองใจตลาดทั่วประเทศ พร้อมก้าวสู่การเป็นหุ้นผู้ผลิตประตูและหน้าต่างเจ้าแรกในตลาดทุน


นายธนินทร์ รัตนศิริวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ WINDOW เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับนำหุ้น WINDOW เข้าจดทะเบียนและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.คม 2566) เป็นวันแรกในหมวดธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง/วัสดุก่อสร้าง โดยมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโต และฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยทีมผู้บริหารมีความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้จุดเด่นของหุ้น WINDOW คือ การเป็นบริษัทผู้นำด้านการผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่ทำจากอลูมิเนียมและยูพีวีซี โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบสำเร็จรูปและแบบสั่งผลิต ภายใต้ตราสินค้าที่เป็นของทางบริษัทฯ และของคู่ค้า โดยมีผลการดำเนินงานรายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักมาอย่างต่อเนื่อง

โดยผลการดำเนินงานในช่วงปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 747.50 ล้านบาท 835.51 ล้านบาท และ 913.35 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 73.10 ล้านบาท 99.28 ล้านบาท และ 74.52 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 526.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 42.05 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 536.02 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.56 ล้านบาท

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตราสินค้าของบริษัทฯ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า วินโดว์ เอเชีย (Window Asia) วินด์เฟม (Wind Fame) เฟรมเม็กซ์ (FRAMEX) และเอ็นโซ (Enzo) ซึ่งทั้งนี้ ตราสินค้าของบริษัทฯ ทั้ง 4 ตราสินค้า โดยมีความแตกต่างกันดังนี้ 1.“Window Asia” (วินโดว์ เอเชีย): เป็นตราสินค้าของผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างของบริษัทฯ ที่วางจำหน่ายในร้านค้าวินโดว์ เอเชีย ช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (Modern Trade) 3 ราย ได้แก่ โฮมโปร (“Homepro”) เมกาโฮม (“Megahome”) และบุญถาวร

2.“Wind Fame” (วินด์เฟรม): เป็นตราสินค้าของผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างของบริษัทฯ ที่วางจำหน่ายในร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ 1 ราย คือ ดูโฮม (“DoHome”)

3.“Framex” (เฟรมเม็กซ์): เป็นตราสินค้าของผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างของบริษัทฯ ที่วางจำหน่ายในร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ 1 ราย คือ ไทวัสดุ (“Thai watsadu”)

4.“Enzo” (เอ็นโซ): เป็นตราสินค้าของผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่วางจำหน่ายในร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ 1 ราย คือ โกลบอลเฮ้าส์ (“Global House”)

“ปัจจุบันบริษัทฯ เน้นการสร้างตราสินค้า “Window Asia” ซึ่งมีความสอดคล้องกับชื่อของบริษัทฯ ให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บริษัทฯ สามารถประชาสัมพันธ์ตัวบริษัทฯ ไปพร้อมกันกับการประชาสัมพันธ์ตราสินค้า โดยเมื่อลูกค้าและผู้บริโภคเห็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า “Window Asia” ก็สามารถเชื่อมโยงได้ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาจากกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างมาอย่างยาวนาน” นายธนินทร์ กล่าว

สำหรับสินค้าส่วนใหญ่จัดจำหน่ายให้แก่ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (Modern trade) ที่มีสาขาครอบคลุมพื้นที่เกือบทุกจังหวัดในประเทศ และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม (Traditional trade) ที่มีร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่เป็นของตนเองในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ กว่า 308 สาขา และร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมในทุกภูมิภาคของประเทศประมาณ 345 ราย ส่งผลให้บริษัทฯ มีช่องทางการวางจำหน่ายกว่า 653 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ยังมีวางจำหน่ายผ่านร้านค้าวินโดว์ เอเชีย (“Window Asia Shop”) ซึ่งเป็นหน้าร้านของบริษัทฯ หรือช่องทางออนไลน์ (Online) ของบริษัทฯ บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย เช่น หน้าเว็บไซต์ (Website) เฟซบุ๊ก (Facebook) บัญชีไลน์ ออฟฟิเชียล (LINE Official Account) ลาซาด้า (Lazada) ช้อปปี้ (Shopee) และน็อคน็อค (NocNoc) เป็นต้น

เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ

นางสาวเศรษฐลักษณ์ ณรงค์วโรดม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน  เปิดเผยว่า จุดเด่นของหุ้น WINDOW เป็นผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปเจ้าแรกที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ WINDOW ยังเป็นผู้นำด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและเป็นผู้นำด้านการให้บริการ โดยวินโดว์ เอเชีย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียว ที่กล้า รับประกันประตูและหน้าต่างตลอดอายุการใช้งาน ทำให้ครองใจตลาดมาอย่างยาวนาน

สำหรับการเข้าระดมทุนใน SET ของ WINDOW ครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายในด้าน 1. ลงทุนก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่ และจัดซื้อเครื่องจักร และเครื่องมือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพิ่มพื้นที่ในการผลิตงานทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ประเภทอลูมิเนียมและยูพีวีซี เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้าสำเร็จรูป และเพิ่มพื้นที่ในการจัดเตรียมงานจัดส่งสินค้า สำหรับรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต 2. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ 3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

โดยเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดี และสนับสนุนให้ WINDOW ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่ทำจากอลูมิเนียมและยูพีวีซี โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบสำเร็จรูปและแบบสั่งผลิต ภายใต้ตราสินค้าที่เป็นของทางบริษัทฯ และของคู่ค้า เพื่อสร้างผลประกอบการเติบโตมั่นคงและก้าวเป็นบริษัทมหาชนอย่างภาคภูมิใจ

นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ( Lead Underwriters) เปิดเผยว่า การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพฐานทุนให้แข็งแกร่ง และต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้พร้อมตอบสนองความต้องการได้ดีขึ้น ยิ่งทำให้คาดว่าหุ้น WINDOW จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เห็นได้จากการกระจายหุ้น IPO จำนวน 244.2 ล้านหุ้น ราคา IPO ที่ 2.10 บาท มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้าจองซื้อหุ้นจำนวนมาก เป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจของ WINDOW และมองเห็นศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

Back to top button