สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ต.ค.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ต.ค.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (25 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 5% ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทอัลฟาเบท
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,035.93 จุด ลดลง 105.45 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,186.77 จุด ลดลง 60.91 จุด หรือ -1.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,821.22 จุด ลดลง 318.65 จุด หรือ -2.43%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (25 ต.ค.) เนื่องจากการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ขณะที่การร่วงลงของหุ้นเวิลด์ไลน์ซึ่งเป็นบริษัทบริการด้านการชำระเงินของฝรั่งเศสหลังการปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการนั้น ได้ถูกชดเชยด้วยแรงหนุนจากการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทแดสซอลท์ ซิสเทมส์และดอยซ์แบงก์
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 435.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด หรือ +0.04%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,915.07 จุด เพิ่มขึ้น 21.42 จุด หรือ +0.31%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,892.18 จุด เพิ่มขึ้น 12.24 จุด หรือ +0.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,414.34 จุด เพิ่มขึ้น 24.64 จุด หรือ +0.33%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (25 ต.ค.) นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรมและกลุ่มเภสัชภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,414.34 จุด เพิ่มขึ้น 24.64 จุด หรือ +0.33%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรง หลังจากอิสราเอลประกาศความพร้อมที่จะโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันถูกกดดันในระหว่างวัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาด รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในยุโรป
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.65 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 85.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2.34% ปิดที่ 90.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,994.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.90 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 23.007 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 20.50 ดอลลาร์ หรือ 2.30% ปิดที่ 912.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 1133.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (25 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 5% ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.24% แตะที่ระดับ 106.5245
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0567 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0589 ดอลลาร์ในวันอังคาร (24 ต.ค.) ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2115 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2162 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3793 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3730 ดอลลาร์แคนาดา, แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 150.0070 เยน จากระดับ 149.8990 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8967 ฟรังก์ จากระดับ 0.8932 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 11.1441 โครนา จากระดับ 11.1128 โครนา