BLC ไตรมาส 3 สดใส รับดีมานด์ยาพุ่ง ลุ้นกำไรปี 66 โต 12%
BLC แนวโน้มไตรมาส 3/66 สดใส หลังดีมานด์การใช้ยาพุ่ง จ่อเดินแผนการตลาดเชิงรุกด้วย 2 กลยุทธ์ใหม่ ปักเป้ารายได้ปี 66 แตะ 1.5 พันล้านบาท หนุนกำไรโต 12% มั่นใจผลิตภัณฑ์ใหม่ดันกำไรขั้นต้นโต 70% ใน 3-5 ปี
ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยาครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จากการกลับมารักษาในโรงพยาบาลตามปกติของผู้ป่วย โดยคาดว่าปริมาณการผลิตและจำหน่ายยาในประเทศช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น ตามความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรคที่เพิ่มขึ้น รองรับโรคระบาดในฤดูฝน เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมาที่มีปริมาณ 9,733.46 ตัน
โดยจากการขยายตัวของการจำหน่ายยาครีม ยาเม็ด และยาแคปซูล ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรค ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ยาในไตรมาส 3/66 จะมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 119.86 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.14 พันล้านบาท) จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของตลาดสำคัญ เช่น จีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา และอาเซียน
ด้าน BLC ได้วางแผนขับเคลื่อนการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง โดยทำการตลาดเชิงรุกเพื่อขยายฐานผู้บริโภคให้มากขึ้น ผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1.การสร้าง Brand Awareness มุ่งเน้นการสื่อสารทางการตลาดผ่านทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ สร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น 2.ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้ง Modern Trade และ E-Commerce เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของ BLC ได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้นำสินค้ากลุ่มยาสามัญประจำบ้าน เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เข้าไปจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และอีคอมเมิร์ซ รับโอกาสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมไปถึงการเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโตสู่ระดับ 1.5 พันล้านบาท หนุนกำไรสุทธิโต 12% จากช่วง 3 ปีย้อนหลัง (63-65)
ทั้งนี้ ในเดือนต.ค.66 บริษัทฯ ได้ผลิตและจำหน่ายยาสามัญใหม่ (New Generic Drugs) รวมถึงยาตามบัญชีนวัตกรรมไทยขึ้นทะเบียนกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งใช้นวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการวิจัยและผลิต รวมทั้งกลุ่มยาที่มีอัตราการเติบโตสูง และคาดว่าจะมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ 70% ในช่วง 3-5 ปีแรก
“BLC พร้อมแสวงหาโอกาสการเติบโต ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีแผนผลิตและจัดจำหน่ายยาสามัญใหม่ (New Generic Drugs) ตามแผน เพื่อรองรับความต้องการของตลาดยา และวิจัยพัฒนานวัตกรรมสมุนไพรไทย (Innovation Thai Herb) เพื่อส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความพร้อมทั้งด้านโรงงานและกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานระดับสากล ความแข็งแกร่งของทีมขาย และศักยภาพการเติบโตของตลาดยาในประเทศและต่างประเทศ จะช่วยส่งเสริมให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ “ ภก.สุวิทย์ กล่าว