MCA แย้ม Q4 โตเด่น บุ๊กรายได้ “เป๊ปซี่-โคล่า” จ่อปิดดีลผลิตภัณฑ์ “ดาวนี่” พ.ย.นี้
MCA แย้มผลงานไตรมาส 4/66 โตเด่น บุ๊กรายได้ “เป๊ปซี่-โคล่า” จ่อปิดดีลผลิตภัณฑ์ “ดาวนี่” พ.ย.นี้ มั่นใจดันรายได้ปีนี้เข้าเป้า 500 ล้านบาท ตอกย้ำพื้นฐานธุรกิจแกร่ง พร้อมยันผู้บริหาร-ผู้ถือหุ้นใหญ่กอดหุ้นแน่น 68.91%
นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA เปิดเผยว่า สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงในวันแรกของการซื้อขายถือเป็นการเหนือการควบคุมของบริษัทฯ แต่สิ่งที่บ่งบอกให้นักลงทุนเชื่อมั่นหลังจากนี้ คือการทำงานของพนักงาน และองค์กรให้หนักขึ้น ทั้งในแง่ของการสื่อสาร เรื่องของการทำธุรกิจ อีกทั้งอยากให้ติดตามต่อเนื่องว่า MCA ยังทำธุรกิจออกมาได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ เพื่อสะท้อนและตอกย้ำให้นักลงทุนได้เชื่อมั่นในธุรกิจในอนาคต
ขณะเดียวกันขอตอกย้ำความเชื่อมั่นในธุรกิจว่าทางกลุ่มบริษัท ภักดี 2019 โฮลดิ้ง จำกัด และกลุ่มผู้บริหารคงยืนยันว่าถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 68.91% เท่าเดิม แล้วไม่คิดที่จะขายหุ้นออกมาอย่างแน่นอน พร้อมย้ำอีกว่าการนำหุ้นสามัญสัดส่วน 5% ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO ขายให้นักลงทุน 2 ราย ได้แก่ นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ ในสัดส่วน 3.91% และนางสาวนลินี แจ่มวุฒิปรีชา ในสัดส่วน 1.09% ของทุนจดทะเบียน หลัง IPO ผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big Lot) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาไม่ต่ำกว่าราคา IPO ที่หุ้นละ 3.30 บาท หากถามวัตถุประสงค์การขายหุ้นในครั้งนี้ก็เพื่อนำเงินที่ได้ไปคืนให้กับครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำมาเป็นทุนในการเปิดกิจการต่อไป
“สำหรับการขายหุ้น Big Lot สัดส่วน 5% จริงๆตอนแรกไม่ทราบจริงๆว่าขายให้ใคร โดยผมฝากให้ FA เป็นคนจัดการให้ แต่หากถามวัตถุประสงค์ในการการขายหุ้นดังกล่าวเพื่ออะไร ต้องขอย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ตอนเริ่มเปิดบริษัทคุณแม่ได้ให้ยืมเงินส่วนหนึ่งมาเปิดธุรกิจและมีพี่สาวและน้องชายมาร่วมทำธุรกิจด้วย ดังนั้นพอขายหุ้นในครั้งนี้ได้ก็เพื่อนำเงินที่ได้คืนให้กับครอบครัวเท่านั้นเอง ส่วนที่ขายหุ้น Big Lot ดังกล่าวไม่มีการติด “ไซเรนท์พีเรียด” และการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการ และโครงสร้างผู้บริหารของบริษัทแต่อย่างใด พร้อมได้มีการเปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว” นายภักดี กล่าว
นายภักดี กล่าวอีกว่า ส่วนแผนธุรกิจภายหลังจากการเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นจากนี้ไปสำหรับแผนในระยะสั้น 1-2 ปี นำเงินที่ได้เพื่อเป็นโอกาสการรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และยังสามารถต่อยอดการให้บริการในรูปแบบใหม่ Distributor เพื่อเป็นการเข้าถึงฐานลูกค้าเดิม และฐานต่อยอดไปยังฐานลูกค้าใหม่ล่าสุด
โดยล่าสุดได้รับงานใหม่ของบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในส่วนของกลุ่มของขบเคี้ยว (snack) มูลค่างาน 83 ล้านบาท สัญญางาน 2 ปี ซึ่งดูแลจัดเรียง-เซลล์ ในทุกช่องทางการขาย ซึ่งเริ่มทำตั้งแต่เดือนนี้โดยจะเริ่มรู้รายได้เข้ามาไตรมาสละ 20 ล้าน และเริ่มบันทึกในไตรมาส 4/2566 ทันที หากสามารถทำได้ดีตามที่ลูกค้าคาดหวัง จะมีโอกาสรับงานในฝั่งของกลุ่มเครื่องดื่มเพิ่มเข้ามาด้วยในอนาคต
ส่วนในช่วงที่เหลืออีก 2 เดือนคาดว่าจะมีงงานเข้ามาต่อเนื่อง โดยภายในเดือนพ.ย.นี้จะมีงานเซ็นสัญญากับผลิตภัณฑ์ “Downy (ดาวนี่)” เป็นงานแนะนำสินค้าในส่วนของแม็คโคร และธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) โดยเป็นงานแนะนำสินค้าโดยจะเริ่มงาน 1 พ.ย.นี้ และคาดจบงานประมาณต้นปีหน้า มูลค่าสัญญาประมาณ 6 ล้านบาท และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/66
ด้านแนวโน้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 จะออกมาสอดคล้องกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยในครึ่งปีหลัง 66 จะออกมาโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก 66 และผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/66 จะเติบโตต่อเนื่องจากเป็นไฮซีซั่นทางธุรกิจ และคงเป้ารายได้ทั้งปีนี้ 66 แตะ 480-500 ล้าน ดังนั้นมั่นใจว่าผลงานในปี 2566-67 จะออกมาตามที่นักวิเคราะห์ให้ไว้
นอกจากนี้ MCA มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล จากกำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะกิจการ และทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี ซึ่งจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นเป็นหลักแน่นอน
“อย่างไรก็ตามการเข้าตลาดฯในครั้งเพื่อนำเงินระดมทุนที่ได้มาบริหารจัดการธุรกิจบริษัทจริงๆ และมองว่าจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและมั่นคงแน่นอน” นายภักดี กล่าวทิ้งท้าย