DSI จ่อฟันกลุ่มปั่น STARK เร่งยึดทรัพย์ “ชนินทร์” ในต่างประเทศ
DSI เร่งตรวจสอบเอาผิดกลุ่มผู้รับประโยชน์จากการตกแต่งบัญชีดันราคาหุ้น STARK พ่วงผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ หากพบกระทำผิดเงื่อนไขตลาดฯ โดยโทษอาญา ล่าสุดขอดีเอสไอข้อมูลตลาดเพิ่มอีก ซัดแก๊งปั่นหุ้นสตาร์ค พร้อมเดินหน้ายึดทรัพย์ “ชนินทร์” ในต่างประเทศ
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิการบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยกับรายการ ”ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ว่ากรณีการตรวจสอบผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาสอบสวนในประเด็นการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้งที่ขายให้รายใหญ่ และนักลงทุนรายย่อยว่า มีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือไม่
โดยทาง DSI ได้สืบสวนข้อเท็จจริงมาหมดแล้ว และอยู่ในระหว่างพิจารณาว่าผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ มีส่วนร่วมรู้เห็นกรณีดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากทางอาญาจะพิจารณาเรื่องเจตนาเป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังพิจารณาถึงผู้ที่เข้าข่ายได้ประโยชน์จากการปั่นราคาหุ้น STARK โดยดูจากเส้นทางการเงินที่เข้าบัญชี หุ้นที่ได้ภายหลังการตกแต่งบัญชี เป็นต้น สำหรับกรณีที่ได้รับหุ้นมา และได้มีการขายหุ้นไปแล้วหากเกิดขึ้นหลังตกแต่งบัญชีก็เข้าข่ายความผิด เพราะการตกแต่งบัญชีมีแนวโน้มชี้ชัดว่า ทำให้หุ้นมีมูลค่าราคาที่สูงขึ้น และมีการขายทำให้ได้ประโยชน์จากการตกแต่งบัญชี ซึ่งล่าสุด DSI ได้ขอข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จากเดิมที่ขอเพียงรายการที่เป็น BIG LOT เท่านั้น แต่ปัจจุบันได้ข้อมูลซื้อขายมาทั้งหมด
ขณะที่การติดตามตัวนายชนินทร์ เย็นสุดใจ กลับมาดำเนินคดีนั้น ยังไม่สามารถบอกข้อมูลได้ ส่วนการอายัดทรัพย์สินในประเทศ เบื้องต้นสามารถอายัดที่ดินและรถยนต์ได้รวมแล้วประมาณ 500-600 ล้านบาท ทรัพย์สินในต่างประเทศก็เชื่อว่ามี ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามโดยใช้กฎหมายการฟอกเงินในการประสานติดตามยึดทรัพย์ในต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามในการขยายผลการสืบสวนยังไม่ชัดเจนว่ามีผู้สั่งการเพิ่มเติมอีก เพราะตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องเป็นกรรมการ เป็นผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งต้องมีหลักฐานเพื่อที่จะสามารถตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป
พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า จะพยายามเร่งรวบรวมข้อมูลหลักฐาน และเตรียมส่งเรื่องให้อัยการสั่งฟ้องในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ เนื่องจากขณะนี้ยังมีพยานบางส่วนที่ยังจะต้องมีการสอบปากคำเพิ่ม โดยปัจจุบันมีการสอบพยานไปแล้ว 131 ปาก และมีการแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลไปแล้ว 5 ราย ได้แก่ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ, นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ, นายชินวัฒน์ อัศวโภคี, นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ และนายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม และนิติบุคล 5 แห่ง
ได้แก่ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK, บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL), บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (TCI), บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด และบริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมครบหมดแล้ว รวมถึงนางสาวยสบวร อำมฤต ที่เพิ่มเติมหลังจากดีเอสไอเรียกสอบปากคำไปแล้ว
ขณะนี้ทาง DSI อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มเติม ในส่วนของผู้ตรวจสอบบัญชีว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือไม่ โดยทาง DSI จะพิจารณาในประเด็นดังกล่าวอย่างเข้มงวดว่าเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ ในแง่การขยายผลการสืบสวนสอบสวนนั้น จากกลุ่มที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษแล้วคิดว่ายังมีบุคคลที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนอีก หากสืบพบจะมีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด เพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุน