ตลท.แจงข่าว “ร่อนหนังสือคุมบัญชีซื้อขาย-ราคาเปิด” ไม่เป็นความจริง
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้แจงข่าวที่ปรากฏในออนไลน์ ร่อนหนังสือถึงโบรกเกอร์ขอความร่วมมือหุ้นไอพีโอเทรดวันแรก ใช้บัญชีแคชบาลานซ์ (วางเงินสดก่อนซื้อขาย) เพิ่มเติมเกณฑ์การตั้งราคาเปิดห้ามเกิน 30% ของราคาไอพีโอ ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงตามที่ปรากฏข่าวจากสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง โดยมีเนื้อหาว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่อนหนังสือถึงโบรกเกอร์ขอความร่วมมือหุ้นไอพีโอเทรดวันแรก ใช้บัญชีแคชบาลานซ์ (วางเงินสดก่อนซื้อขาย) เพิ่มเติมเกณฑ์การตั้งราคาเปิดห้ามเกิน 30% ของราคาไอพีโอ” ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ทางการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และขอความร่วมมือไม่ส่งต่อข้อความจากแหล่งที่ไม่มีข้อมูลอ้างอิง
ขณะเดียวกัน อ้างอิงข้อมูลจาก Hoonsmart เผยถึงแหล่งข่าวโบรกเกอร์ ระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์ ส่งจดหมายลับถึงบริษัทหลักทรัพย์ สมาชิก (โบรกเกอร์ ) ขอความร่วมมือให้หุ้นไอพี่โอ ซื้อขายวันแรก ใช้บัญชีแคชบาลานซ์ (วางเงินสดก่อนซื้อ) เท่านั้น โดยเป็นเพียงขอความร่วมมือเท่านั้น ส่วนจะใช้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ใช้ดุลยนิจความเสี่ยงเอง ซึ่งเดิมสามารถใช้บัญชีเงินสด T+2 และบัญชีมาร์จิ้นได้
สำหรับการขอความร่วมมือดังกล่าว เพื่อเตือนนักลงทุนและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นไอพีโอ วันแรก ซึ่งที่ผ่านมา ราคาหุ้นไอพี่โอวันแรก เปิดสูง บางตัววิ่งแรก กว่า 100% หรือ ซิลลิ่ง 200% แล้วทิ้งดิ่งลงมาปิดต่ำจอง สร้างความเสียหายให้นักลงทุน
โดยจดหมายดังกล่าวส่งมาต้นสัปดาห์นี้ส่งผลให้หุ้นขนาดเล็กทุกบริษัทที่เข้าซื้อขายเกือบทั้งหมด เปิดตลาดราคาปรับตัวลงต่ำกว่าราคาไฮพีโอ
ก่อนหน้านี้ ตลาดได้ออกกฎกณฑ์การส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น IPO กำหนดให้ราคาเปิดต้องไม่เกิน 30% ของราคาไอพี่โอ เพื่อสกัดการตั้งราคาสูง ๆ หากมีคำสั่งซื้อราคาไม่เหมะสมจะถูกดีดออกจากระบบ เห็นได้ว่า ระยะหลัง ๆ ราคาหุ้นไอพี่โอ เปิดไม่แรง นอกจากนี้ หากมีคำสั่งซื้อไม่เหมาะสม โบรกเกอร์ สั่งระงับทันที
“ตลาดหลักทรัพย์ เริ่มเข้มงวดกับคำสั่งซื้อหุ้น IP0 และการตั้งราคาเปิด เห็นชัดเจนที่หุ้น PHG เปิดต่ำจอง ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อการลงทุน-การเก็งกำไร มาร์ก็ตเมคเกอร์ หรือ MM ที่คุมราคาหุ้น เล่นยากขึ้น จะเห็นว่า เอ็มเอ็ม หลายรายไม่รับงาน ซึ่งเหตุที่ตลาดออกมาคมเข้มงวด น่าจะมาจากมาร์เก็ตดิ้งกลุ่มหนึ่ง สร้างความเสียหายกับหุ้นแป้งมัน หุ้นขนาดเล็กอีกหลายตัว สร้างผลกระทบกับตลาดรวม”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะนี้หุ้นไอพี่โอ คือความเสี่ยงระดับสูง กำลังกลับเข้าสู่ยุคปัจจัยพื้นฐาน ตามกลไกลปกติของตลาด นั่นหมายความว่า หากหุ้นตัวไหน ตั้งราคาสูง ๆ กำหนด/อี (ราคาต่อกำไรต่อหุ้น) ในอนาคต จะไม่ได้รับความสนใจ หรือราคาขึ้นยาก
นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า การปรับกลยุทธ์สู้หุ้นไอพี่โอ เพื่อเอาตัวรอด จากความเสียหายการลงทุน โดยใช้วิธีการซื้อราคาต่ำไปถัวเฉลี่ยกับหุ้นไอพี่โอ แล้วขายราคาสูงกว่าต้นทุนถัวเฉลี่ยถึงกำไรไม่มาก แต่ไม่ขาดทุน หรือขาดทุนน้อย
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ภาวะตลาดซบเซา ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ มีแผนลดคน กระแสข่าวสาขาบริษัทหลักทรัพย์ของต่างประเทศปิดกิจการเมื่อ 31 ต.ค.66 ที่ผ่านมา