“แรงงานไทย” อิสราเอล ถูกจับเพิ่ม 23 คน “รมว.ต่างประเทศ” เร่งเจรจาขอปล่อยตัว
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เผยถึงยืนยันแรงงานไทยถูกจับแล้ว 23 คน พร้อมเดินหน้าเจรจา 3 ประเทศ คือ กาตาร์ อียิปต์ และอิหร่าน พร้อมเข้าช่วยเหลือทันที หากมีความคืบหน้าได้ขอให้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศทันที
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยสถานการณ์การสู้รบระหว่าง อิสราเอล กาซา ว่า ตนและคณะได้เดินทางไปกาตาร์ อียิปต์ และอิหร่าน เพื่อขอความร่วมมือให้เข้าช่วยเหลือแรงงานไทย จากการพูดคุย ได้ทราบว่ากลุ่มฮามาสที่จับตัวประกันไทย มีมากกว่า 2 กลุ่ม จึงต้องมีการแยกห้องเพื่อพูดคุยถึงแนวทางการปล่อยตัวประกัน
ทั้งนี้ ตามรายงานที่มีการระบุว่ามีแรงงานไทยถูกจับเพิ่มอีกหลาย 10 คน โดย นายปานปรีย์ ยืนยันว่าแรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกันประมาณ 23 คน ส่วนจำนวนคนที่อ้างว่ามีเพิ่มขึ้นนั้น ทางอิสราเอลยังยืนยันว่ายังเป็นจำนวนเดิม และไม่มีถูกจับตัวเพิ่มเติม
โดยได้ขอร้องให้ 3 ประเทศช่วยผลักดันเจรจา เพื่อให้มีการปล่อยตัวคนไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งทั้ง 3 ประเทศ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสู้รบ อยากให้ประเทศไทยเรียกร้องให้หยุดยิงโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้มีโอกาสในการปล่อยตัวประกันเร็วขึ้น อีกทั้งตนกล่าวว่า ถ้าการเจรจาหยุดยิงเกิดความล่าช้าไปเป็นไปได้อยากให้เจรจาปล่อยตัวคนไทยออกมาเร็วที่สุด อาจจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ได้ยิ่งดี ซึ่งทั้ง 3 ประเทศก็รับปากที่จะดำเนินการในส่วนนี้
“สำหรับการปรึกษากับกาตาร์ เชื่อว่าคนไทยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มแรกฟังแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น และในส่วนของอิหร่าน ซึ่งเชื่อว่ามีความใกล้ชิดกลุ่มฮามาสเป็นอย่างมาก ซึ่งได้รับปากว่าจะช่วยเจรจาและผลักดันให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว ส่วนอียิปต์นั้นอยากให้มีการปรึกษาช่วยหาช่องทางเพื่อสื่อสารให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว พร้อมรับปากว่าจะรีบดำเนินการ” นายปานปรีย์ กล่าว
ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าเรื่องการปล่อยตัวได้ขอให้ทั้ง 3 ประเทศแจ้งเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศรับทราบทันที เพื่อที่ไทยจะได้เตรียมตัวไปรับตัวประกัน โดยส่วนของประเทศอียิปต์ที่มีดินแดนติดกาซา อาจเป็นจุดหนึ่งในการรับตัวประกันชาวไทย ซึ่งได้ขออนุญาต รมว.ต่างประเทศของอียิปต์ให้เอกอัครราชทูตไทย หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงสามารถเดินทางไปรับตัวประกันในจุดชายแดนได้ทันที
นอกจากนี้ 3 ประเทศที่ไทยไปพูดคุย เป็นกลุ่มประเทศที่มีอิทธิพล สามารถพูดคุยกับกลุ่มฮามาส และปาเลสไตน์ หากมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับประเทศอื่น ก็พร้อมที่จะเดินทางไปพูดคุย ในส่วนของชุดคณะทำงานสภาผู้แทนราษฎรที่เดินทางไปเจรจาเรื่องตัวประกันนั้น
ทั้งนี้ นายปานปรีย์ กล่าวเสริมว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีความตั้งใจในการประสานเครือข่ายที่จะช่วยผลักดันให้คนไทยหลุดพ้นอันตราย และกลับมาได้อย่างปลอดภัย โดยรัฐบาลไทยไม่ได้จำกัดการทำงานอยู่ที่เพียงฝ่ายเดียว ภาคเอกชน หรือฝ่ายการเมือง หรือภาคส่วนอื่นๆ ที่จะช่วยเหลือก็มีความยินดี