ตลท. เปิดรายชื่อ 34 “บจ.” คว้าเรตติ้งสูงสุด AAA หุ้นยั่งยืน “SET ESG Ratings”
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปลี่ยนชื่อหุ้นยั่งยืน THSI เป็น SET ESG Ratings พร้อมยกระดับการประกาศผลในรูปแบบของเรตติ้ง แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ AAA, AA, A และ BBB ชูรายชื่อ 34 “บจ.” คว้าเรตติ้งสูงสุด AAA
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) เพื่อสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตที่ยั่งยืน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการประกาศผลหุ้นยั่งยืน THSI มาตั้งแต่ปี 2558 และมี บริษัทจดทะเบียนสมัครใจเข้าร่วมประเมินและผ่านการประเมินเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน
ขณะเดียวกันผู้มีส่วนได้เสียในตลาดทุนต่างให้ความสำคัญและนำข้อมูลด้าน ESG มาใช้ประกอบการวิเคราะห์และพิจารณาลงทุนเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับข้อมูลทางการเงิน
“ปัจจุบันปัจจัยด้าน ESG ไม่ว่าจะเป็นบรรษัทภิบาล ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเด็นสิทธิมนุษยชนในองค์กรและห่วงโซ่อุปทาน ล้วนมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น ผู้ลงทุนต้องการข้อมูลเพื่อให้ทราบว่า บจ. มีการบริหารจัดการความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ เหล่านี้อย่างไร ข้อมูล ESG จึงมีความสำคัญและเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้ลงทุนใช้พิจารณาการลงทุน การยกระดับประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในรูปแบบของเรตติ้งจะช่วยให้ผู้ลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุน และผู้จัดการกองทุนมีข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งสามารถใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนต่อไป ขณะที่ บจ. สามารถนำไปใช้เป็น benchmark ในการพัฒนาผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัท และยังช่วยสร้างความน่าสนใจต่อผู้ลงทุน เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นได้อีกด้วย” นายภากร กล่าว
โดย บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์และได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2566 มีจำนวน 193 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในระดับ AAA (คะแนนรวม 90-100) จำนวน 34 บริษัท ระดับ AA (คะแนนรวม 80-89) จำนวน 70 บริษัท ระดับ A (คะแนนรวม 65-79) จำนวน 64 บริษัท และระดับ BBB (คะแนนรวม 50-64) จำนวน 25 บริษัท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 13 ล้านล้านบาทหรือคิดเป็น 72% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมดของ SET และ mai (ณ 1 พฤศจิกายน 2566)
ทั้งนี้ จากผลการประเมินความยั่งยืนปี 2566 พบว่า บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีการดำเนินการและสามารถเปิดเผยข้อมูลได้ดีขึ้น โดยเฉพาะนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานเพื่อลดการใช้ไฟฟ้าและพลังงาน ลดการใช้น้ำ และการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และข้อมูลที่เกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยอาชีวอนามัยต่าง ๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บจ. ยังต้องปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลการบริหารความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการจัดการประเด็นสิทธิมนุษยชนในองค์กรและห่วงโซ่อุปทาน และการวัดผลสำเร็จที่ได้จากโครงการพัฒนาชุมชนและสังคม
สำหรับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในปีนี้ได้พัฒนาแบบประเมินความยั่งยืนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและแนวโน้ม ESG ที่สำคัญทั้งในระดับสากลและระดับประเทศ เช่น ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิทธิมนุษยชน เป็นต้น โดยในการคัดเลือก SET ESG Ratings คัดเลือกจาก บจ. ที่มีคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนผ่าน 50% ในแต่ละมิติ (มิติบรรษัทภิบาลเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม) และผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด เช่น เป็นบริษัทที่มีผลการประเมิน CGR 3 ดาวขึ้นไป ไม่เป็นบริษัทที่ถูกกล่าวโทษหรือได้รับการตัดสินความผิดจากหน่วยงานทางการ มีผลกำไรสุทธิ 3 ใน 5 ปีย้อนหลัง เป็นต้น
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ นำผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ไปใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกสมาชิกในดัชนี SETESG เพื่อส่งเสริมการลงทุนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังใช้ในการคัดเลือกรางวัล SET Awards กลุ่ม Sustainability Excellence เพื่อเฟ้นหา บจ. ต้นแบบด้านความยั่งยืน ผู้สนใจสามารถติดตามกระบวนการและวิธีการประเมิน รวมทั้งผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ได้ที่ www.setsustainability.com/ESG-ratings