WHA คว้าเรตติ้งสูงสุด AAA หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 66 ต่อเนื่องปีที่ 4
WHA ติดรายชื่อหุ้นยังยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 คว้าคะแนนผลการประเมิน SET ESG Ratings ระดับสูงสุด “AAA” ตอกย้ำความสำเร็จในการพัฒนาธุรกิจเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนที่แข็งแกร่ง สู่การสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคมและประเทศชาติ
บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ที่ระดับ “AAA” ซึ่งเป็นเรทติ้งระดับสูงสุด นับเป็นการติดรายชื่อหุ้นยั่งยืน 4 ปีติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ทั้งในมิติการจัดการความเสี่ยงและโอกาส ศักยภาพในการแข่งขัน และการได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เปลี่ยนชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ตอกย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนที่แข็งแกร่ง และมั่นคงตามนโยบายและเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร เพื่อให้สังคมไทยที่เดินหน้าสู่ความยั่งยืนในระดับสากล
นายณัฐพรรษ ตันบุญเอก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินกลุ่ม WHA เปิดเผยว่า บริษัทฯให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงด้าน ESG มาโดยตลอด ทั้งนี้ บริษัทที่มีการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดี ย่อมสะท้อนให้กลุ่มนักลงทุนเห็นถึงศักยภาพโอกาสการเติบโต ขีดความสามารถในการแข่งขัน สู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต นอกจากนั้น การลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้าน ESG เป็นการตอบโจทย์การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว และเป็นเทรนด์การลงทุนที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจในขณะนี้
ทั้งนี้ WHA ได้มีการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) ซึ่งแนวทางดังกล่าวแสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งพนักงาน ผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า ชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่ากลุ่มลูกค้าของ WHA Group ส่วนใหญ่จะเป็นบรรษัทข้ามชาติ (Multi-National Corporation) กว่า 80% ซึ่งทุกรายให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG เป็นอย่างมาก ส่งผลให้การขับเคลื่อนการทำงานระหว่าง WHA Group กับกลุ่มลูกค้าจึงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับคะแนนผลการประเมินที่ WHA ได้รับในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสำเร็จในการผลักดันยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง ผ่านโครงการต่างๆ ที่บริษัทดำเนินการ อาทิ โครงการ Wastewater Reclamation ที่มีการรีไซเคิลน้ำทิ้งจนได้คุณภาพแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ โดยจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งโครงการนี้เป็นการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมมาประยุกต์ใช้กับนวัตกรรมใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำเสีย โดยปรับสภาพน้ำจากระบบบำบัดน้ำเสียมาผลิตเป็นน้ำปราศจากแร่ธาตุและน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง เป็นการช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งเป็นการประหยัดการใช้น้ำดิบได้มากเทียบเท่าการใช้น้ำของครัวเรือนกว่า 2 แสนคน โดยบริษัท มีเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้มากถึง 5 แสนคน ในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า ยิ่งไปกว่านั้น WHA มีแผนการนำไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานทดแทน มาใช้ในกระบวนการนำน้ำทิ้งกลับมาใช้ใหม่ ภายใต้โครงการเทอร์ควอยซ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ อีกทั้ง WHA ยังเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกในโลกที่ได้ทำการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน หรือ Peer-to-Peer Energy Trading
นอกจากนี้ WHA ได้มีการประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050 ตามแนวทาง SBTi (Science Based Targets Initiative) มุ่งมั่นเดินหน้าจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมศึกษานวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อแก้ปัญหาก๊าซเรือนกระจก อาทิ โครงการกรีนโลจิสติกส์ (Green Logistics) โดยการนำยานพาหนะไฟฟ้า (EV) มาใช้ในกิจกรรมการขนส่ง และการบริหารจัดการในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม และลดต้นทุนโลจิสติกส์ในระยะยาว รวมถึงมีแนวคิดการนำ Second Life แบตเตอรี่มาเสริมประสิทธิภาพในการใช้พลังงานทดแทน อีกทั้งยังมีภารกิจส่งเสริมหลักแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หรือการใช้ทรัพยากรในกลุ่มธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระบบนิเวศของ WHA และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน เช่น การจัดการขยะอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือเพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม เป็นต้น
“การได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ที่ระดับ “AAA” ของ WHA Group เป็นบทพิสูจน์ความเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน มีกลยุทธ์ธุรกิจที่มีการวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี สามารถลดผลกระทบเชิงลบและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ส่งผลให้มีความสามารถในการนำพาทั้งธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน เห็นผลลัพธ์อย่างโดดเด่นและเป็นรูปธรรม สอดรับกับพันธกิจ The Ultimate Solution for Sustainable Growth เพื่อให้สังคมไทยเดินหน้าสู่ความยั่งยืนในระดับสากล” นายณัฐพรรษ กล่าวทิ้งท้าย