KKPS อัพคำแนะนำ “ซื้อ” INTUCH เป้าใหม่ 87 บ. ชูปันผลสูง – ส่วนแบ่งกำไร ADVANC หนุน
“บล.เกียรตินาคินภัทร” ปรับคำแนะนำ “ซื้อ” INTUCH ราคาเป้าหมายใหม่ 87 บาท ชูเป็นหุ้นปันผลสูง แนวโน้มกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของ ADVANC
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS เผยแพร่บทวิเคราะห์ของ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH โดยปรับระดับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” พร้อมตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 87.00 บาท จากราคา ณ วันที่วิเคราะห์ที่ 71.25 บาท
โดยหลังจากการปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ขึ้นเป็น 275 บาท ส่งผลให้นักวิเคราะห์ต้องปรับประมาณกำไรการของ INTUCH ซึ่งเป็นบริษัทแม่เพิ่มขึ้นอีก 9% ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นอีก 15% ในปี 2568 ส่งผลให้ราคาเป้าหมายเดิมที่ 80 บาท ปรับขึ้นเป็น 87 บาท ด้วยวิธีประเมินมูลค่าหุ้น (Sum of the parts: SOTP)
ภายหลังบริษัทจำหน่ายหุ้นทั้งหมดใน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ ADVANC ยังคงเป็นสินทรัพย์สำคัญเพียงรายการเดียวของ INTUCH โดยคิดเป็น 99.5% ของมูลค่า SOTP และยังคงเป้าหมายส่วนลดมูลค่าสินทรัพย์ปัจจุบัน (NAV Discount) ที่ 16% เนื่องจากเห็นว่า INTUCH ยังไม่มีการเปิดเผยนโยบายที่จะนำไปสู่ความร่วมมือ (Synergy) ระหว่าง ADVANC และ INTUCH ได้
สำหรับการที่ส่วนลดมูลค่าสินทรัพย์ปัจจุบันกลับมาสู่ระดับที่เหมาะสม ประกอบกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ INTUCH ที่สูงกว่า ADVANC ฝ่ายวิเคราะห์จึงปรับระดับคำแนะนำของ INTUCH จาก “เป็นกลาง” (Neutral) เพิ่มขึ้นเป็น “ซื้อ” (Buy)
ขณะที่ราคาหุ้นของ INTUCH ต่ำกว่า ADVANC อยู่ 10% ตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และส่วนลดมูลค่าสินทรัพย์ปัจจุบัน (NAV Discount) ของ INTUCH ได้เพิ่มขึ้นเป็น 16% สอดคล้องกับส่วนลดเฉลี่ยที่ 16% นับตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่วนเพิ่มหรือลดมูลค่าสินทรัพย์ปัจจุบัน (NAV Premium/Discount) ของ INTUCH มีความผันผวนนับตั้งแต่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เข้าซื้อกิจการของ INTUCH ในช่วงกลางปี 2563 ทำให้เกิดส่วนเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ปัจจุบัน (NAV Premium) สูงสุดที่ 20% ในไตรมาส 3 ของปี 2564 จากการเก็งกำไรของตลาดเกี่ยวกับศักยภาพในการผนึกกำลัง (Synergy)
อย่างไรก็ตาม NAV Premium กลับมาติดลบและ NAV Discount ต่ำสุดที่ 17% ในไตรมาส 2 ของปี 2565 ก่อนจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้งเมื่อ INTUCH ประกาศขายหุ้น THCOM ในเดือนพฤศจิกายน 2565 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา NAV Discount เพิ่มขึ้นมากถึง 18% ขณะที่ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงระยะสั้นที่ INTUCH จะหลุดจาก SET50 ซึ่งจะทำให้ NAV Discount กว้างขึ้นอีกจนกว่าจะมีการประกาศอื่นเพิ่มเติม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะอยู่ภายในเดือนธันวาคม 2566
ส่งผลให้ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อทั้ง INTUCH และ ADVANC เนื่องจาก ADVANC ได้ประโยชน์อย่างชัดเจนจากการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม โดยมีกำไรเติบโตที่เร่งขึ้น 2% ในไตรมาส 4/2565, เพิ่มขึ้น 6% ในไตรมาส 1/2566, เพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาส 2/2566 และเพิ่มขึ้น 22% ในไตรมาส 3/2566 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคินภัทร ประเมินโมเมนตัมการเติบโตจะยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสถัดไป เนื่องจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น นับจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบอย่างเด่นชัดต่อกำไรมากที่ขึ้น ขณะที่ผู้บริหารประเมินแนวโน้มรายได้มือถือของ ADVANC จะเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของ GDP ของไทยที่ 3-4%