SUN แย้ม Q4 แจ่ม เร่งอัพกำลังผลิต รองรับดีมานด์ กางแผนปี 67 บุกตลาด “ยุโรป-สหรัฐ”

นายวีระ นพวัฒนากร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ว่าแนวโน้มไตรมาส 4/2566 แนวโน้มยอดขายอาจจะลดลงกว่าไตรมาส 3/2566 แต่จะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงไตรมาส 4/2565 ซึ่งเชื่อว่ายังมีวัตถุดิบเข้ามาต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทได้ขยายตลาดมากกว่าถึง 40 กว่าประเทศ โดยยังเป็นกลุ่มของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก และที่สำคัญยังมีประเทศโอเซียเนียและออสเตรเลียที่มีกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญของบริษัท โดยบริษัทเตรียมเดินหน้าขยายตลาดในอเมริกามากขึ้น โดยจะเริ่มมองเห็นโอกาสหลากหลาย เชื่อว่าสินค้ามีคุณภาพสูง และมีความสามารถในการแข่งขันกับตลาดคู่แข่งได้

สำหรับในปี 2567 บริษัทมีเป้าหมายขยายตลาดในแถบยุโรป และขยายตลาดในประเทศอังกฤษ โดยมองว่าเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสินค้าสูง และสามารถเติบโตได้อย่างมากในอนาคต ประกอบกับรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีการเติบโตที่ดี อย่างเช่น ตลาดไต้หวัน

โดยบริษัทได้เตรียมการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (RTE) โรงงาน Mini Factory 2 จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 180,000-200,000 ชิ้นต่อวัน สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเละมีแผนพัฒนาอายุการเก็บรักษา (Shelf Life) ผลิตภัณฑ์ เพื่อสอดรับกับความต้องการของลูกค้าต่างประเทศ และเหมาะสมกับการส่งออกในอนาคต โดยวางเป้าหมายร้านโดนใจอยู่ที่ 30,000 สาขาภายในปี 2570

ด้านตลาดต่างประเทศแม้ว่าสถานการณ์การแข่งขันในตลาดปัจจุบันยังคงสูงมาก บริษัทเน้นกลยุทธ์การรักษาคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจและความสัมพันธ์กับลูกค้ารายเดิม และมีเป้าหมายในการขยายตลาดต่างประเทศ ในกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูงแถบยุโรป อังกฤษ และอเมริกาคาดว่าจะช่วยส่งเสริมรายได้ให้เติบโต 10-15% ตามแผน

ส่วนแผนธุรกิจในปี 2567 บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงและโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากประเด็นการเปลี่ยนแปลง ของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงได้นำมาเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์ “Year of Change” โดยมุ่งเน้นเสริมสร้างความพร้อมขององค์กรในทุกมิติ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตามเป้าหมาย สร้างความมั่นคงด้านงานวัตถุดิบและการส่งเสริมเกษตรกรโดยใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ การดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และบริหารจัดการองค์ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจบนสู่ความยั่งยืน สอดคล้องตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, Governance) ต่อไป

อนึ่ง บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 84.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.01% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 32.22 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขาย 1,013.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบรับเข้าเป็นไปตามแผน รายได้จากการขายต่างประเทศสามารถขยายตัวได้สูงขึ้นในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และทวีปยุโรป รายได้จากการขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินค้าพร้อมทาน(RTE) โดยเฉพาะมันหวานเผา และถั่วลายเสือ นอกจากนี้ยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เช่น ลำไยลอยแก้ว วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ และ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 239.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.52% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 88.53 ล้านบาท