III แย้ม Q4 โตต่อ! รับไฮซีซั่น ลุยส่ง “ANI” ลงสนามเทรด SET สิ้นปีนี้

III ส่งซิกแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/66 โตต่อเนื่อง รับไฮซีซั่นขนส่งทั้งทางเรือ-อากาศ ประกอบกับไฮซีซั่นท่องเที่ยวฟื้น เตรียมส่งบ. ย่อย “ANI” ให้บริการสายการบินเข้าระดุมตลาดหลักทรัพย์ (SET) มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 25% ตามเป้า


นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ว่าแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/2566 จะเติบโตต่อเนื่อง ตามทิศทางการขยายตัวของส่งออกไทยที่กลับมาพลิกบวก ส่งผลให้ค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและการขนส่ง เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล โดยเฉพาะในเส้นทางจีน สหรัฐอเมริกา ประกอบกับปริมาณนักท่องเที่ยวและปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ทั้งขนส่งทางเรือและทางอากาศ

รวมถึงโค้งสุดท้ายของปี 2566 บริษัทมีแผนนำบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (ANI) ซึ่งเป็นบริษัทลูก และเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในภูมิภาคเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในสิ้นปีนี้ โดยผ่านการยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ยื่นไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบได้รับอานิสงส์จากสัญญาณบวกธุรกิจภูมิภาค ค่าระวางเรือเติบโตแกร่ง ช่วยผลักดันให้มั่นใจว่ากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในปี 2566 จะเติบโตกว่าปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 25%

นายวิรัช กล่าวอีกว่า แนวโน้มทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2567 ว่าบริษัทยังรอความคืบหน้าของการเข้าประมูลงานสนามบิน โดยบริษัทมั่นใจว่ามีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะเข้าประมูลงาน AOTGA ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นรายที่ 3 แต่ต้องผ่านการประมูลและการเปิดรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) ก่อน โดยคาดว่าจะเริ่มได้ข้อสรุปกลางปีหน้า และยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

นายวิรัช กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 160.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.60% เทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 146.26 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิ 462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมาจากการเติบโตของกิจการที่บริษัทเข้าไปลงทุนในหลายๆรูปแบบ ทั้งรายได้ใน 4 ธุรกิจหลักของบริษัท (Organic) และรายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจเข้าลงทุน (Inorganic) หนุนผลงานให้เติบโตต่อไปได้ ท่ามกลางเศรษฐกิจและการส่งออกโลจิสติกที่ชะลอตัว ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 398.20 ล้านบาท ลดลง 46.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่รายได้รวมในช่วงงวด 9 เดือนแรก โดยมาจาก 4 กลุ่มธุรกิจหลัก (Organic) อยู่ที่ 1,276 ล้านบาท ลดลง 42% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากค่าระวางลดลง ทำให้ตู้ขนส่งขาดแคลน แต่ช่วงหลังของปีนี้ คาดหวังว่าธุรกิจขนส่ง และเที่ยวบินฟื้นตัวขึ้นได้ตามไฮซีซั่นและกำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 287 ล้านบาท ลดลง 35% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงน้อยกว่ารายได้ จากบริหารจัดการต้นทุนให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นได้รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่าย

รวมทั้งยังมีรายได้ที่มาจากส่วนแบ่งกำไรธุรกิจจากการลงทุนและขยายกิจการ (Inorganic) ในงวด 9 เดือนแรก อยู่ที่ 423.06 ล้าน เติบโต 96.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มาจากการเข้าซื้อกิจการและปรับโครงสร้างธุรกิจ ANIGroup Consolidate (ANI) ธุรกิจสายการบิน ได้ส่วนแบ่งกำไร 334.36 ล้านบาท, ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน SALGroup (Thailand) Co., Ltd. (SAL) ร่วมลงทุนกับ AOT โดยตั้งชื่อว่า AOTGA ให้บริการภาคพื้นในสนามบินดอนเมืองและภูเก็ต โดยได้รับส่วนแบ่งกำไรงวด 9 เดือนแรกจากเข้าถือหุ้น SAL อยู่ที่ 55.14 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธุรกิจขนส่งทางเรือยังเติบโตต่อเนื่อง โดยธุรกิจ ECU Worldwide (Thailand) Co., Ltd. (ECU) ได้รับส่วนแบ่งกำไรที่ 6.71 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับธุรกิจ CK Line (Thailand) Co., Ltd. (CKT) ได้รับส่วนแบ่งกำไร 1.39 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังจากค่าระวางลดลง อีกทั้งธุรกิจ DG Packaging Pte Ltd (DGPS) บรรจุภัณฑ์สินค้าเคมีและสินค้าอันตราย โดยได้รับส่วนแบ่งกำไรที่ 17.24 ล้านบาท ซึ่งเข้าถือหุ้นถึง 50% รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลประกอบการสุทธิในงวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 462 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกจะเป็นรายได้หลักและเติบโตได้ดีกว่าบริษัทแม่

Back to top button