“3 หุ้นสายการบิน” ลุ้น Q4 ฟื้นชัด! รับไฮซีซั่น หนุนนักท่องเที่ยวคึก

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่ม “สายการบิน” มานำเสนอเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุน หลังมีนโยบายรัฐบาลเข้ามากระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างมาตรการฟรีวีซ่า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและไต้หวันที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั้งสองสัญชาติสามารถพำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ไม่เกิน 30 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2567 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน

ทั้งนี้ จากการสำรวจบทวิเคราะห์ของหลายโบรกเกอร์ที่มีการประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ของบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจด้านสายการบินและการท่องเที่ยว คาดการณ์ว่าจะออกมาเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีบางส่วนสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากช่วงไฮซีซั่นของฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผลดังกล่าวมีมุมมองบวกต่อหุ้น BA, AOT และ AAV

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 ของ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA อยู่ที่ 1,744 ล้านบาท จากการดำเนินงานดีขึ้นและรายการพิเศษ โดยไตรมาส 3/2566 เป็นช่วงไฮซีซั่นของเกาะสมุยซึ่งเป็นเส้นทางหลักของ BA โดยคาดการณ์ว่าผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 22% เป็น 0.98 ล้านคน และราคาเฉลี่ยตั๋วเพิ่มขึ้น 15% อยู่ที่ราว 3,800 บาท ในขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องคาดว่าจะเติบโตเช่นเดียวกัน

โดยมองว่ารายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 40% อยู่ที่ราว 4,840 ล้านบาท ส่วนต้นทุนคาดว่าเพิ่มขึ้น 11% โดยปรับตัวขึ้นตามรายได้ โดยเฉพาะต้นทุนน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินในประเทศจาก 0.20 บาทต่อลิตร เป็น 4.73 บาท ทำให้ผลักต้นทุนให้กับผู้โดยสารไม่ทัน

ขณะที่ไตรมาส 4/2566 คาดการณ์ยังเห็นการเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นหน้ามรสุมของเกาะสมุยทำให้รายได้ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่บริเวณอื่นเป็นช่วงรับไฮซีซั่น ประเมินผู้โดยสารและรายได้หรือค่าตั๋วยังคงเติบโตจากปีก่อน คาดการดำเนินงานเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท

ขณะเดียวกันทางฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT โดยคาดการณ์กำไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 3,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 376% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและระหว่างประเทศฟื้นตัว ทั้งนี้ไตรมาสนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 7.06 ล้านคน เพิ่มขึ้น 196% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้น 34.6% และผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น 47.8%

โดยขณะนี้ไม่มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแล้ว และปรับส่วนแบ่งรายได้จากกลุ่มคิงเพาเวอร์เป็นรายหัวซึ่งได้สูงขึ้น จึงคาดการณ์ว่ารายได้เพิ่มขึ้น 111% อยู่ที่ 13,822 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น 31% จากโบนัสปลายปีและจากบริษัทย่อย ส่วนไตรมาสก่อนหน้ากำไรดีขึ้นมาจากผู้โดยสารฟื้นตัว 5%

สำหรับไตรมาส 1/2567 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการเข้าสู่ไฮซีซั่น แม้ช่วงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงวันชาติของจีน อาจทำให้คนจีนยังเดินทางเข้ามาไม่มากตามที่คาดการณ์ไว้ แต่นักท่องเที่ยวอื่นๆ ยังฟื้นตัวต่อเนื่องและจะมากขึ้นในช่วงปลายปี เมื่อเทียบปีก่อนที่เพิ่งเปิดประเทศ โดยนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนตามไฮซีซั่น และจะต่อเนื่องไปในไตรมาส 2/2567 โดยธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2567 อยู่ที่ 35.5 ล้านคน จากที่เคยคาดไว้ 28-30 ล้านคน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินต่อหุ้น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ว่าจะพลิกกำไรในไตรมาส 4/2566 โดยมีสมมติฐานจากฤดูท่องเที่ยวสำหรับตลาดในประเทศ นอกจากนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนซึ่งชะลอตัวเป็นประมาณ 8,000-9,000 คนต่อวัน หลังเป็นวันหยุดของจีนทั้งสัปดาห์ก็น่าจะฟื้นตัวด้วยจากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนที่ฟื้นตัวเป็น 9,433 คน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 โดยเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเนื่องตามฤดูเฉลิมฉลองในเดือนพฤศจิกายน 2566 ไปจนถึงเดือนมกราคม 2567 และแตะจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน

โดยปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์ต่อ AAV ซึ่งวางแผนเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางจีนจาก 71 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ณ. สิ้นไตรมาส 3/2566 เป็น 100 เที่ยวบินในไตรมาส 4/2566 เมื่อเทียบกับ 140 เที่ยวบินก่อนโควิด