“กลุ่ม JMART” ลุ้นดีดกลับ! หลังงบ Q3 ฟื้นเด่น มั่นใจไตรมาส 4 โตต่อ

“กลุ่ม JMART” ลุ้นดีดกลับ! หลังไตรมาส 3/66 ผลงานฟื้นเด่นตามคาด มั่นใจไตรมาส 4 ทั้ง JMT SINGER SGC เจโมบาย และอสังหาริมทรัพย์ ยังเติบโตและฟื้นตัวต่อเนื่อง เปิดพอร์ตโชว์กระแสเงินสดเพียบ ย้ำ มีจ่ายคืนหุ้นกู้ตามกำหนดแน่ ด้าน บล.บัวหลวง ชี้ JMT ไตรมาส 4 นี้ เก็บเงินสดได้เพิ่ม ตั้งสำรองหนี้ฯ ลดลง ราคาหุ้นลงมากเกินไป  P/E เหลือ 17 เท่า และ PEG เพียง 0.9 เท่า


กลุ่มเจมาร์ท (JMART) เปิดงบไตรมามาส 3/66 กำไร 293 ล้านบาท ลดลง -48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ฉุด 9เดือนกำไรหดตัว -613 ล้านบาท ลดลง -148% เผย กลุ่มเจมาร์ทฟื้นตัวชัดเจน โดยธุรกิจหลักมีกำไรสุทธิ นำโดย JMT ยังเติบโตต่อเนื่อง ไตรมาส 3 มีกำไร 466.3 ล้านบาท มั่นใจไตรมาส 4 สามารถทำยอดจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพได้สูงสุดในปีนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรจาก JMT สูงขึ้น ขณะที่ J มีกำไรโตต่อหนุนสร้างรายได้ให้กลุ่มในอนาคต ส่วน SINGER-SGC พลิกมีกำไร JMART แย้มได้เตรียมกระแสเงินสดให้เพียงพอต่อการเติบโตในอนาคตและการจ่ายคืนหุ้นกูู้แล้ว

ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือ JMART ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 293 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง -48.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิที่ 563 ล้านบาท อย่างไรก็ดี งวด 9 เดือนแรกของปีนี้ มีผลขาดทุนอยู่ 613 ล้านบาท ลดลง 148% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2565

ทั้งนี้ ภาพรวมของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 แสดงถึงการฟื้นตัวของผลประกอบการของกลุ่มเจมาร์ทได้อย่างชัดเจน จากธุรกิจหลักยังมีผลประกอบการมีกำไรสุทธิ โดยผลงานของบริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด ในไตรมาส 3/2566 มียอดขายเพิ่มขึ้น 10.5% จากไตรมาส 2/2566 หรืออยู่ที่ 2,251ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท จากแบรนด์มือถือหลัก คือ iPhone และ Samsung ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ช่วยหนุนยอดขายเติบโตในไตรมาส 4/2566

“เจมาร์ทฯ ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อทิศทางของผลดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2566  คาดว่า จะมียอดขายที่สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์มือถือค่ายต่าง ๆ และเป็นช่วง High Season ของการขายสินค้า” เจมาร์ท ระบุ

ด้านบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ยังคงเป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการดีต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 466.3 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 2.4% และยังมีมุมมองการเติบโตของ JMT ในเชิงบวก ด้วยการคงเป้าหมายในการทำผลประกอบการให้เพิ่มจากปี 2565 จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่จะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น

ขณะที่ในไตรมาส 4/2566 เป็นช่วง High Season ของเศรษฐกิจโดยรวม ในไตรมาส 4/2566 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพได้สูงสุดในปีนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรจาก JMT สูงขึ้น

ด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ในไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 129.1 ล้านบาท เป็นผลจากมีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม รวมถึงการลงทุนและรายได้ค่าเช่าเพิ่มจากการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ JAS Green Village บางบัวทองในช่วงไตรมาส 3/2566 และมั่นใจอีกเช่นกันว่า ผลประกอบการของ J ในอนาคตทั้งปีนี้ และปี 2567 จะออกมาเติบโต

“เจเอเอสฯ ได้เปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ โครงการ JAS Green Village บางบัวทอง ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า เชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มได้ในอนาคต”

กลุ่มเจมาร์ท เผยเกี่ยวกับ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ด้วยว่า มีผลประกอบการที่ฟื้นกลับมามีกำไรสุทธิได้ในไตรมาส 3/2566 จากมีกำไรสุทธิ 12.6 ล้านบาท

ส่วนบริษัทย่อยอย่าง บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เริ่มกลับมามีผลประกอบการที่ดีมีกำไร 8.2 ล้านบาท ด้วยการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่รัดกุม สำหรับไตรมาส 4/2566 JMART มีมุมมองเชิงบวกในด้านผลการดำเนินงานของซิงเกอร์ที่จะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ในไตรมาส 4/2566 ด้วยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายและการปล่อยสินเชื่อในบริษัทย่อยให้สามารถควบคุมคุณภาพของสินเชื่อได้ดีขึ้น

ด้านสายงานทางด้านเทคโนโลยี บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ที่ผ่านมา เจ เวนเจอร์ส ได้มีพัฒนาการในด้านการสร้าง New Ecosystem ให้กับกลุ่มบริษัท โดยมุ่งทำ Digitization ให้กับบริษัทในกลุ่มหลายโครงการ เช่น การพัฒนา App Jaii-Dee ให้กับ JMT ให้สามารถเชื่อมกับหน่วยงานทางการได้ และได้พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิทัล (Identity Provider – IdP) บน NDID Platform โดยผู้ขอใช้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิทัลเชื่อมได้ในด้าน มาตรฐานด้านความปลอดภัย อีกทั้งยังขยายการบริการให้กับองค์กรธุรกิจผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชัน ผ่านการใช้งาน Join Application บล็อกเชนแอปพลิเคชัน

ทั้งนี้หนุนให้ JMART มีรายได้รวมในไตรมาส 3 เท่ากับ 3,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่ 93.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.7% สำหรับรายได้รวมงวด 9 เดือนเท่ากับ 10,171.4 ล้านบาท ลดลง 45 ล้านบาท หรือลดลง 0.4%

ในไตรมาส 3/2566 พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า บริษัทและกลุ่มบริษัทได้ฟื้นตัวและกลับมามีกำไรสุทธิได้ในไตรมาสนี้ ทั้งนี้  ในไตรมาส 4/2566 JMART ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม

“บริษัททราบดีว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันมีความผันผวนทั้งตลาดเงินและตลาดทุน ดังนั้น ภารกิจสำคัญ คือ การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาวะดังกล่าว ให้ธุรกิจยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีได้ พร้อมทั้งต้องจัดเตรียมกระแสเงินสดให้เพียงพอต่อการเติบโตในอนาคตและการจ่ายคืนหุ้นกูู้ สำหรับกลุ่มเจมาร์ทได้เตรียมแผนการดังกล่าวไว้แล้ว สำหรับปี 2567 ที่จะถึงนี้ โดยบริษัทมีกระแสเงินสดและแหล่งเงินทุนที่เพียงพอต่อการชำระหนี้คืนได้ตามกำหนด” เจมาร์ท ระบุ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า JMT จะมีการจัดเก็บเงินสดฟื้นตัวในไตรมาส 4 นี้ และแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้ฯ จะลดลง จากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้คาดว่า กำไรไตรมาส 4 จะกลับมาเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่ราคาหุ้นของ JMT ปรับฐานลงมาแรงเกินไป ทำให้ปัจจุบัน ราคาหุ้น JMT มี P/E Ratio ปี 2567 เพียง 17 เท่า โดยกำไรปี 2567-2568 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 19% คิดเป็น PEG ที่ 0.9 เท่า จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

Back to top button