PLANB โชว์รายได้ Q3 นิวไฮแตะ 2.16 พันล้าน ดันกำไรโต 46%
PLANB รายได้ไตรมาส 3/66 ทำนิวไฮแตะ 2,157 ล้านบาท โต 22.7% จากช่วงเดียวปีก่อน สร้างกำไร 261 ล้านบาท โต 46% จากช่วงเดียวปีก่อน รับอานิสงส์สนับสนุนจากการขับเคลื่อนของทุกกลุ่มธุรกิจ
บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB โชว์ผลประกอบการจากการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/2566 อย่างแข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้รวม 2,157 ล้านบาท เติบโต 22.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน สูงสุดเป็นประวัติศาตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา
โดยการเติบโตของรายได้สนับสนุนจากการขับเคลื่อนของทุกกลุ่มธุรกิจ โดยธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยสามารถสร้างการเติบโตได้ในสื่อทุกประเภท รวมถึงธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมยังคงสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น จากการเติบโตของธุรกิจด้านสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรู้รายได้กีฬามวย จำนวน 167 ล้านบาท และการบริหารสิทธิทางการตลาดสำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ณ เมืองหางโจว จำนวน 146 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทได้วางแผนไว้ก่อนหน้า ประกอบกับความสามารถในการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นอย่างเข้มแข็ง และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิได้อย่างโดดเด่นที่ 261 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดด 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน 178 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากดูผลประกอบการของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 พบว่า PLANB สามารถสร้างรายได้รวมที่แข็งแกร่งที่ 5,947 ล้านบาท เติบโต 28.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และ 67.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2562 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิที่ 620 ล้านบาท เติบโต 37.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และ 19.4% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2562 (ก่อนโควิด-19) ดังเหตุผลที่กล่าวข้างต้น สะท้อนศักยภาพการดำเนินงานตามกลยุทธ์ของบริษัท
ด้านดร.พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ PLANB เปิดเผยว่า จากผลงานในไตรมาส 3/2566 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกไตรมาสของบริษัทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงถูกกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าคาดการณ์ และตัวเลขการส่องออกที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ ธปท.ปรับลดประมาณการ GDP จากเดิมเติบโตที่ 3.6% ลงมาสู่ระดับ 2.8% แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาประเด็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะมีความชัดเจนขึ้นแต่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงต้องใช้เวลา
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าหากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจะเป็นแรงผลักดันต่อผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตขึ้นได้อีกในอนาคต สนับสนุนจากศักยภาพพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแรง (Solid Fundamental) การมีสื่อโฆษณาครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย และการดำเนินงานตามกลยุทธ์ Growth Strategy สร้าง Ecosystem ผลักดันการเติบโตของบริษัทได้อย่างยั่งยืน
ดร.พินิจสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ PLANB ยังให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้ง ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาลมาโดยตลอด ส่งผลให้แพลน บี ได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ที่ระดับ “AA” ในปี 2566นับเป็นการติดรายชื่อหุ้นยั่งยืน 3 ปี ติดต่อกัน โดย แพลน บี เป็นหนึ่งใน 193 บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือก แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ทั้งในมิติการจัดการความเสี่ยงและโอกาส รวมไปถึงศักยภาพในการแข่งขัน และการได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว