“เศรษฐา” จีบ 3 ยักษ์ใหญ่ Tesla-HP-ADI ลงทุนไทย ชูความพร้อมฐานการผลิต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวภายหลังเยี่ยมชมกระบวนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท Tesla และร่วมทดสอบรถบรรทุก Cyber Truck ที่จะเปิดตัวสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และได้พูดคุยกับผู้บริหารฯ ซึ่งให้ความสนใจเข้าลงทุนในไทยสูงสุด คาดว่าจะสามารถตัดสินใจได้ในไตรมาสแรกของปี 2567

โดยเจ้าหน้าที่ Tesla จะเดินทางไปประเทศไทย เพื่อดูที่ตั้งโรงงาน ซึ่งเอกชนไทยเป็นผู้เสนอจำนวน 3 แห่ง โอกาสเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรีจึงได้ชวนไปชมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่จังหวัดเชียงใหม่ในงานเทศกาลยี่เป็ง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีและมั่นใจว่าจะสรุปได้ในเร็ววันนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรถยนต์บรรทุก Cyber Truck เป็นรุ่นเรือธงของ “อีลอน มัสก์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla ผลิตจากอะลูมิเนียม ใช้ค้อนทุบไม่เป็นรอย ถูกชนไม่เป็นรอย ยืนบนหลังคาที่มีความแข็งแรง โดยตนที่เป็นคนสูงใหญ่กับเจ้าหน้าที่อีกคนขึ้นไปยืนพร้อมกันก็ยังไม่มีรอยบุบ

“เป็นรถที่มีสมรรถนะในการทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรได้ในเวลาประมาณ 2.3 วินาที เร็วกว่ารถยนต์ Ferrari มีการทดสอบให้ดู เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจ เข้าโค้งได้เกาะถนน ได้ข่าวว่ามีบริษัทในอเมริกาสั่งซื้อแล้ว 1 ล้านคัน และจากที่ได้ทดลองนั่งก็ดีมาก สบายมาก” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนการหารือกับผู้บริหารบริษัท HP ซึ่งเป็นบริษัทด้านกลุ่มคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและแล็ปท็อป (PC & Laptop) และกลุ่มเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์ขนาดใหญ่ของโลก นายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนบริษัทฯ ขยายการลงทุนเพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิต พัฒนา supply chain และตั้งสำนักงานภูมิภาค รวมทั้งให้เพิ่มการผลิตในไทย ซึ่งไทยมีความพร้อมในด้านระบบสาธารณูปโภค รวมถึงมีนโยบายในการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (ease of doing business) โดยได้เชิญชวนให้มาร่วมเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการศึกษา (Academic) เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ

“มีการหารือเรื่องสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และด้านศุลกากร เพราะต้องการความคล่องตัว เนื่องจากต้องการจะย้ายฐานการผลิตเข้ามา ซึ่งทางบริษัทฯ อยากจะประกาศขยายกำลังการผลิตให้ได้ภายในกลางเดือนธ.ค.นี้ โดย CEO ของบริษัทจะมาพบกับผมอีกครั้ง คาดว่าจะมีข่าวดี และจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนพ.ย.” นายกรัฐมนตรี ระบุ

พร้อมกันนี้ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าและการพัฒนาโครงการ Landbridge ของไทย และเชิญชวนบริษัท HP เข้ามาร่วมโครงการฯ ซึ่งมีความสอดคล้องและเป็นประโยชน์ต่อแผนพัฒนา Supply Chain ของบริษัทเป็นอย่างดี ช่วยลดค่าขนส่ง และสามารถทำให้ไทยเป็นฐานการส่งออกที่เหมาะสมเป็นอย่างดีสำหรับบริษัท HP

ขณะที่บริษัท Analog Devices, Inc. หรือ ADI ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวงจรรวม (Integrated Circuit: IC) รายใหญ่ระดับโลกที่มีการออกแบบและผลิตแบบครบวงจร มีความสนใจที่จะมาเปิดโรงงานในประเทศไทย ถือเป็นโอกาสดีที่ได้พูดคุยและรับทราบความต้องการ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่เขาต้องการจะได้รับหากเข้ามาลงทุน

นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ประเทศไทยได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ เนื่องจากไทยมีเรื่องการบริหารจัดการน้ำ พลังงานสะอาด และมีความต้องการบุคลากรด้านวิศวกรรมศาสตร์จำนวนมาก คาดว่าน่าจะตกลงกันได้ในเร็ววันนี้