MASTER ส่งซิก Q4 โตต่อ รับไฮซีซั่น จ่อปิด 3 ดีลสิ้นปีนี้
MASTER กวาดรายได้ 9 เดือนแรก 1,374 ล้านบาท ดันกำไรแตะ 252 ล้านบาท ส่งซิกไตรมาส 4/66 โตต่อรับไฮซีซั่น พร้อมตั้งเป้า 3 ดีลใหม่ในสิ้นปี 66 ดันผลงานโตแกร่ง
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Masterpiece Hospital” เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 99.80 ล้านบาท เติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 85.10 ล้านบาท
โดยในไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลรายได้อยู่ที่ 479.25 ล้านบาท เติบโต 19.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 401.20 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 252.85 ล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 222.22 ล้านบาท ขณะที่ MASTER มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 1,374.20 ล้านบาท เติบโต 36% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1,011.14 ล้านบาท
ทั้งนี้การเติบโตหลักๆ มาจากเติบโตต่อเนื่องในทุกหัตถการโดยเฉพาะศัลยกรรมเสริมจมูก, ศัลยกรรมดูดไขมัน, ศัลยกรรมยุบโหนกตัดกราม, และสุขภาพชาย ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทเพิ่มจำนวนแพทย์และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามารับบริการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
“โดยบริษัทพร้อมฉายภาพไปสู่การเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทางที่มุ่งการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยแผนกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) มาประยุกต์ใช้ซึ่งเป็นแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจขอบริษัท อีกทั้งมีนโยบายลงทุนในหุ้นของแต่ละบริษัทไม่เกิน 40% ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีความชัดเจนและจะรายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้กลยุทธ์การมองหาดีลของ MASTER จะมีลักษณะประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ คือ 1.เจ้าของธุรกิจมี Passion ในการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 2.ธุรกิจที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักในพื้นที่ของตัวเอง และ 3.มี Synergy กับธุรกิจของ MASTER” นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว
ขณะที่นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทำจุดสูงสุดใหม่ All Time High ทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากมีการเพิ่มการใช้ห้องผ่าตัดและคาดว่าทิศทางไตรมาส 4/2566 จะมีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องเพราะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ โดยน่าจะส่งผลบวกต่อภาพรวมของบริษัท
สำหรับความคืบหน้ากิจการที่เข้าลงทุนนั้นในไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะรับรู้กำไร WIND Clinic – Rattinan Medical Center – บริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด (Dr.Chen) และบริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) อีกทั้งการทำงานร่วมกับบริษัทเหล่านี้ช่วยให้การดำเนินกิจการของทั้งกลุ่มจะช่วยสนับสนุนปัจจัยทางด้านต้นทุนให้บริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพและเติบโตร่วมกัน
นอกจากนี้คาดว่าช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทมีโอกาสร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างน้อยอีก 3 ดีลภายในสิ้นปีนี้ โดยหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้บริษัทจะมีดีลซื้อกิจการทั้งหมด 7 ดีล โดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนเนื่องจากส่งผลบวกต่อบริการของทั้งกลุ่ม อีกทั้งช่วยให้เกิด Economy of Scale ในเรื่องของเวชภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในอนาคต