CMAN กวาดรายได้ Q3 แตะ 769 ล้าน แย้มโค้งสุดท้าย รับไฮซีซั่นธุรกิจปูนไลน์
CMAN กวาดรายได้ไตรมาส 3/66 แตะ 769 ล้านบาท แย้มโค้งท้ายปี ปริมาณขายดีขึ้น เริ่มเข้าไฮซีซั่นธุรกิจปูนไลม์ เดินหน้าส่งออกเต็มพิกัด-เน้นลดต้นทุน หนุนธุรกิจเติบโตยั่งยืน
นายอดิศักดิ์ เหล่าจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) หรือ CMAN ผู้ผลิตปูนไลม์ครบวงจรระดับท็อปเทนของโลกภายใต้แบรนด์ “CHEMEMAN” เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 769 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จำนวน 856 ล้านบาท และลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 960 ล้านบาท
โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 14 ล้านบาท ลดลง 77% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จำนวน 59 ล้านบาท และลดลง 81% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 72 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 2,688 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,794 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทจำนวน 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 152 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2566 ปรับตัวลดลงเนื่องจากเป็นช่วง low season ของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศ ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้ลูกค้าบางกลุ่มเลื่อนคำสั่งซื้อสินค้าออกไปเป็นช่วงไตรมาส 4 ดังนั้นส่งผลให้ปริมาณการขายปูนไลม์ลดลงและราคาขายสินค้าเฉลี่ยลดลงตามราคาพลังงานในตลาดโลกประกอบกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยังไม่รับรู้ (ในทางบัญชี) จำนวน 23 ล้านบาท เนื่องจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินดองเวียดนาม
ทั้งนี้บริษัทได้ถือโอกาสหยุด 3 เตาเผาปูนไลม์ในประเทศไทยและเวียดนามตามแผนการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตเต็มที่ในช่วง high season ที่จะเริ่มต้นขึ้นในไตรมาส 4 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1 ของปีหน้า ถึงแม้ว่าบริษัทหยุดเดินเตาและปริมาณการขายลดลงแต่ด้วยประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้นประกอบกับราคาพลังงานในตลาดโลกที่ลดลงส่งผลให้ต้นทุนขายในไตรมาส 3 ปรับตัวลดลง 26.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โดยกำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 34.7% เมื่อเทียบกับ 29.5% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปีนี้บริษัทมีกำไรขั้นต้น 32.5% เพิ่มขึ้นจาก 25.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ากลยุทธ์การบริหารธุรกิจของบริษัทนั้นประสบผลสำเร็จ และสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องแม้อยู่ท่ามกลางพายุใหญ่เศรษฐกิจโลก
ขณะเดียวกันแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 ปี 2566 คาดว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวจากภาวะเงินเฟ้อและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก โดยประเมินว่าความต้องการในประเทศจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลของอุตสาหกรรมน้ำตาลและคำสั่งซื้อของลูกค้าในต่างประเทศที่เลื่อนมาจากไตรมาสก่อนกลับมา รวมไปถึงราคาพลังงานโลกที่ปรับลดลงจะส่งผลให้ต้นทุนสินค้าและบริการลดลงเช่นกัน
โดยบริษัทยังเดินหน้าเพิ่มยอดขายในตลาดเป้าหมายที่มีอัตรากำไรเหมาะสม เพื่อมุ่งเจาะตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมดาวเด่นอีกทั้งโครงสร้างทางการเงินแข็งแรง อาทิ เหมืองนิกเกิล, ลิเทียม, และแร่ธาตุหายาก (Rare-earth)
นอกจากนี้ CMAN จะชำระคืนเงินกู้ที่ครบกำหนดเพื่อลดภาระดอกเบี้ยพร้อมลงทุนต่อเนื่องในโครงการพลังงานสะอาด ได้แก่ โครงการโซล่าร์ ซึ่งบริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในการช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และการใช้รถพลังงานไฟฟ้า อาทิ รถบรรทุกอีวี รถตักอีวี เป็นต้น เพื่อลดต้นทุนอย่างยั่งยืน