ASW มั่นใจยอดขายปีนี้โต 1.5 หมื่นลบ. พร้อมโชว์ “แบ็กล็อก” แน่น 1.63 หมื่นล้าน
ASW มั่นใจยอดขายปีนี้โตเข้าเป้า 1.5 หมื่นล้านบาท ตุนแบ็กล็อกแน่น 1.63 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ปีนี้กว่า 6 พันล้านบาท พร้อมกางแผนไตรมาส 4/66 ลุยเปิด 5 โครงการใหม่มูลค่า 1.51 หมื่นล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ว่า บริษัทประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน 9 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิ 608 ล้านบาท ลดลง 12% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
โดยรายได้รวมในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 1,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% เทียบช่วงเดียวกันเป็นของปีก่อน โดยส่วนใหญ่ประมาณ 88% มาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้รายได้รวม 9 เดือนแรกอยู่ที่ 4,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัว 10 โครงการใหม่รวมมูลค่า 15,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 60% และปัจจุบันโครงการที่ร่วมมือกับ JV มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 10,500 ล้านบาท จำนวน 6 โครงการ โดยมี 2 โครงการโอนสำเร็จไปแล้วคือ โครงการเคฟศาลายา และแอทโมซบางนา ส่วนอีก 4 โครงการมี 2 โครงการที่จะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2566 คือแอทโมซ อ่อนนุชและมีนบุรี
ส่วนยอดโอนไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 1,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40% และ 9 เดือนแรกยอดโอนรวมมูลค่า 5,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 34% ส่วนยอดขาย(พรีเซล) ช่วง 9 เดือนแรกอยู่ที่ 11,784 ล้านบาท คาดทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าทั้งปีนี้อยู่ที่ระดับ 15,000 ล้าน บาท
ด้านงานในมือ(backlog) ณ ไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 16,337 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 6,319 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 39% โดยแบ่งเป็นโครงการ NON JV มูลค่า 3,747 ล้านบาท และ JV มูลค่า 2,572 ล้านบาท ส่วนอีก 30% คาดว่าจะรับรู้ในปี 2567 มูลค่า 5,365 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมูลค่า 4,653 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปี 2568-2569
ส่วนแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 2566 มีทั้งหมด 15 โครงการรวม 30,260 ล้านบาทโดย 9 เดือนแรกเปิด 10 โครงการ มูลค่า 15,160 ล้านบาท ส่วนอีก 5 โครงการจะเปิดในไตรมาส 4/2566 มูลค่า 15,100 ล้านบาท ได้แก่ 1.เคฟ วันเดอร์แลนด์ มูลค่าโครงการ 2,550 ล้านบาท 2.แอทโมซ แคนวาส ระยอง มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท 3.โมดิซ โวยาด ศรีนครินทร์ มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท 4.เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทามูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท และ 5. โครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา มูลค่าโครงการรวม 4,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ในไตรมาส 4/2566 บริษัทฯได้เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,400 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเคฟ โคโลนี มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท , แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท, แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท,และแนวรับ ดิ อาเบอร์ ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการ 1,050 ล้านบาท ส่วนในปี 2567 มี 10 โครงกามูลค่ารวม 23,177 ล้านบาท ที่จะสร้างแล้วเสร็จและมองว่ามีการรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง