CV ปรับราคาขายเพิ่มทุน RO ที่ 0.50 บ. จองซื้อ 5-19 ม.ค.67
CV ปรับราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน RO ครั้งใหม่ที่ 0.50 บาท/หุ้น เคาะวันจองซื้อ 5-19 ม.ค. 67 ระดมทุนใช้เป็นทุนหมุนเวียนธุรกิจ แย้มไตรมาส 4/66 จ่อซื้อขาย Wood Pallet ลุยพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะ
บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 11/2566 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ครั้งใหม่ ในราคา 0.50 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ในการยกเลิกการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในราคา 1.0 บาทต่อหุ้น เพื่อที่จะทำการกำหนดการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในราคาที่กำหนดใหม่ให้สะท้อนราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปัจจุบัน เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และเพื่อให้การเพิ่มทุนของบริษัทฯ สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์นั้น ที่ประชุมฯ ได้มีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ในราคา 0.50 บาทต่อหุ้น
สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นที่ได้ทำการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนต่อบริษัทฯ ในระหว่างวันที่ 6 -10 พฤศจิกายน 2566 ในราคา 1.0 บาทต่อหุ้นนั้น ทางบริษัทฯ ได้ทำการยกเลิกการรับจองซื้อหุ้นในราคาดังกล่าวโดยการคืนเงิน และให้ผู้ถือหุ้นดังกล่าวแต่ละรายได้แก้ไขการจองซื้อหุ้นเพื่อใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นในราคา 0.50 บาทต่อหุ้นต่อไป
โดยมีมติอนุมัติให้กำหนดระยะเวลาการจองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ครั้งใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ถึง 19 มกราคม 2567 กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ (Record Date) ครั้งใหม่ในวันที่ 1 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯ ได้อนุมัติแก้ไขราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจากเดิมราคาหุ้นละ 1 บาท เป็นราคา 0.50 บาท จึงทำให้บริษัทฯ จะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนจำนวนลดลง ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ทำการปรับเปลี่ยนวงเงินการใช้เงินเพิ่มทุนในแต่ละวัตถุประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับการที่จะได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวนลดลง
โดยซื้อหุ้นสามัญ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด จำนวน 1,040 ล้านบาท ภายในปี 2567 – 2568, นำเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ และเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย จำนวน 300 ล้านบาท ภายในปี 2567 – 2568, นำเงินชำระหนี้เงินกู้ยืมของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย จำนวน 200 ล้านบาท ภายในปี 2567 – 2568 และใช้สำหรับการลงทุนเพื่อรองรับการต่อยอดธุรกิจหลัก และ/หรือ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในอนาคตกับธุรกิจของกลุ่มบริษัท จำนวน 380 ล้านบาท ภายในปี 2567 – 2569
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการแก้ไขราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (CV-W1) เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น เนื่องด้วยได้มีการแก้ไขราคาซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) เป็นราคา 0.50 บาทต่อหุ้นแล้ว จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (CV-W1) ให้สอดคล้องกัน ที่ประชุมฯ จึงได้มีมติอนุมัติการแก้ไขราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (CV-W1) จากเดิม 1.20 บาทต่อหุ้น เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น
ขณะที่นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CV ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็ก เปิดเผยว่า เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ และจากที่สถานการณ์สงครามในต่างประเทศส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศและราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งส่งผลให้ราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมูลค่าลดลงต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน และต่ำกว่าราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น และเพื่อให้การเพิ่มทุนของบริษัทฯ สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ ทางบริษัทฯ ได้ทำการยกเลิกและคืนเงินการรับจองซื้อหุ้นในราคา 1.0 บาทต่อหุ้นดังกล่าว และให้ผู้ถือหุ้นแต่ละรายได้แก้ไขการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) เพื่อใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นในราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ได้กำหนดใหม่ ให้สอดคล้องกับราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปัจจุบัน
สำหรับสรุปภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือน ของกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 876.44 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจาก กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า มีรายได้รวม 9 เดือน 435.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.61 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 จากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า ส่วนกลุ่มธุรกิจวิศวกรรม มีรายได้รวม 9 เดือน 390.57 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิง มีรายได้รวม 9 เดือน 44.58 ล้านบาท
โดยสำหรับในไตรมาส 4/2566 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มปริมาณงานซื้อขายเชื้อเพลิงขยะ เตรียมลงนามสัญญาซื้อขาย Wood Pallet พร้อมกับพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะร่วมกับพันธมิตร และรับงาน EPC ในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมากเข้ามา รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้ายังคงเดินหน้าเดินเครื่องตามปกติ