สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 พ.ย.2566
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 พ.ย.2566
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (17 พ.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing) และมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,947.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,514.02 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,125.48 จุด เพิ่มขึ้น 11.81 จุด หรือ +0.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเฮลท์แคร์ และตลาดยังปิดปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางต่าง ๆ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 455.82 จุด เพิ่มขึ้น 4.55 จุด หรือ +1.01% และปรับตัวขึ้น 2.8% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,233.91 จุด เพิ่มขึ้น 65.51 จุด หรือ +0.91%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,919.16 จุด เพิ่มขึ้น 132.55 จุด หรือ +0.84% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,504.25 จุด เพิ่มขึ้น 93.28 จุด หรือ +1.26%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (17 พ.ย.) และปรับตัวขึ้นอย่างมากในรอบสัปดาห์นี้ หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยอาจแตะระดับสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,504.25 จุด เพิ่มขึ้น 93.28 จุด หรือ +1.26% และปรับตัวขึ้นเกือบ 2% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 9 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 4% ในวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยราคาดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่เข้าทดสอบในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อเก็งกำไรและชดเชยการทำชอร์ตเซลล์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียด้วย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 2.99 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 75.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 3.19 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 80.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยราคาปรับฐานลงและนักลงทุนขายทำกำไร หลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดี
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,984.70 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวขึ้น 2.1% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.10 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 23.852 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 901.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,058.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (17 พ.ย.) แม้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างบ้านในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% แตะที่ระดับ 103.9219 และปิดลดลง 1.60% ในรอบสัปดาห์นี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 149.6650 เยนในวันศุกร์ (17 พ.ย.) จากระดับ 150.5960 เยนในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8856 ฟรังก์สวิส จาก 0.8885 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะ 1.3717 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3762 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 10.5313 โครนาสวีเดน จาก 10.5805 โครนาสวีเดน
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0899 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0856 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2449 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2416 ดอลลาร์สหรัฐ