SABINA ส่งซิกรายได้ Q4 โตต่อ กางแผนปี 67 รุกต่างประเทศเต็มสูบ

SABINA แย้มรับไตรมาส 4/66 ดันรายได้โตตามเป้า 15% เร่งออกคอลเลกชั่นใหม่ส่งท้ายปี กางแผนปี 67 มุ่งพัฒนาแบรนด์สู่ Regional brand ดันตลาดฟิลิปปินส์โตต่อเนื่อง พร้อมลุยขยายตลาดต่างประเทศอีกมากกว่า 5 ประเทศในอนาคต


นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day ในวันที่ 21 พ.ย.66 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 3/66 มีรายได้รวมอยู่ที่ 852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3/66 ทำจุดสูงสุดใหม่ และตอกย้ำว่ากำไรทั้งปีของปี 66 จะเพิ่มสูงกว่ากำไรในปี 65

ขณะที่รายได้รวมงวด 9 เดือนของปี 66 อยู่ที่ 2,580 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 349 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 65

โดยการเติบโตของรายได้ในไตรมาส 3/66 มาจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ (NSR) ที่เพิ่มขึ้นถึง 56% เนื่องจากการขายในช่องทางออนไลน์นั้นมีอัตราค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าช่องทางอื่น และอีกเหตุผลที่ทำให้กำไรขั้นต้นเติบโตดีขึ้นมาจากการนำเข้าสินค้าที่อยู่ในระดับกลาง, คุณภาพที่ดี, การขยายโรงงานและการผลิตสินค้าที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการกวาดยอดขายผ่านแคมเปญ 9.9 เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับในส่วนของแคมเปญ 10.10 ที่มียอดขายตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ในช่วงของเมกะแคมเปญอย่าง 11.11 ภาพรวมรายได้นั้นเกือบเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป อีกทั้งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายไว้ค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากการที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่มีการปิดร้านค้าใหญ่ไป 2 แห่ง ส่งผลให้ยอดขายลดลงค่อนข้างเยอะ แต่จะกลับมาเปิดบริการอีกครั้งในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่ายอดขายทั้งหมดจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญ

อีกทั้งยังมองเห็นสัญญาณการเติบโตที่ดีในภาคของการช้อปปิ้ง แม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกเข้ามามีผลกระทบ แต่ภาพรวมของกระแสเศรษฐกิจในยุโรปเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น

นางสาวดวงดาว เปิดเผยอีกว่า แผนการดำเนินงานในไตรมาส 4 บริษัทจะทยอยออกคอลเลกชั่นใหม่ และอาจเพิ่มไลน์สินค้าที่นอกเหนือจากชุดชั้นใน ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นในปี 67 ส่วนแคมเปญส่งท้ายปี บริษัทได้จัดแคมเปญง่ายๆ อย่างการออกคอลเลกชั่นใหม่ที่เหมาะกับฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสามารถสร้างกระแสได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม SABINA ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแบรนด์ให้เป็น Regional brand โดยได้ขยายสาขาไปยังต่างประเทศแล้วกว่า 92 สาขา และประเทศที่ขยายสาขาได้มากสุดคือประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากพื้นฐานของคนฟิลิปปินส์ค่อนข้างใกล้เคียงกับคนไทย แต่ยังคงมีสิ่งที่แตกต่างกันคือโครงสร้างการค้าปลีก ที่ประเทศฟิลิปปินส์ยังคงตามหลังประเทศไทยอยู่ ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะที่ค่อนข้างเยอะ

รวมถึงฤดูกาลที่มีฝนบ่อย ทำให้บริษัทต้องปรับตัว นำในสิ่งที่คิดว่าทำแล้วดีในประเทศไทยไปใช้ในประเทศฟิลิปปินส์ และยังเชื่อว่าจะมีการเติบโตได้อีกในอนาคต และยังมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ในอนาคตอีก 2 แห่ง ทั้งยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศอีกมากกว่า 5 ประเทศ

“การเติบโตของบริษัทนั้นยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการเติบโตนั้นไม่ได้อยู่ที่บริษัทต้นทางเพียงอย่างเดียวแต่ขึ้นอยู่กับห้างสรรพสินค้าที่เราไปเปิดสาขาด้วย และในส่วนของธุรกิจระยะยาวนั้นจะมีการปรับเพิ่มสิ่งที่มีอยู่ในเมืองไทยและขยายพื้นที่ให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น เพื่อการันตีความพอใจของลูกค้าได้แบบ 100%” นางสาวดวงดาว กล่าว

Back to top button