4 โบรกเชียร์ “ซื้อ” ADVANC เป้าสูง 262 บาท อัพไซด์พุ่ง 20%

4 โบรกแนะนำซื้อหุ้น ADVANC เคาะราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 262 บาท ดันอัพไซด์พุ่งกว่า 20% มองบวกกรณีการเข้าซื้อ 3BB ในระยะกลางถึงยาว พร้อมมองว่าการเข้าซื้อดังกล่าวหนุนกำไรปี 67 เติบโตอย่างโดดเด่น


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง พบว่ามีโบรกเกอร์ 4 แห่งมีมุมมองเชิงบวกและแนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ระดับ 262 บาท คิดเป็นอัพไซด์จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ 20%

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น ADVANC ที่ราคาเป้าหมาย 262 บาท เนื่องจากคาดว่ากำไรจะพลิกเป็นขาขึ้นตั้งแต่ปี 66 จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตาม ARPU ที่เพิ่มขึ้นเพราะการแข่งขันลดลง ขณะเดียวกัน คาดว่า 3BB จะยังขาดทุน แต่คาดการณ์ว่ากำไรของ ADVANC น่าจะยังโตได้ 2.2% ในปี 67

ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกกับการที่ ADVANC เข้าซื้อ 3BB โดยเฉพาะในระยะกลางถึงยาว โดยประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.ผลกระทบทางด้านบัญชีจากการมี 3BB และ JASIF ซึ่งจะมีภาระสองด้านจากการนำ 3BB เข้ามาอยู่ในงบรวม ด่านแรกคือผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 2 พันล้านบาทในปี 66 และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากการกู้เงิน 3 หมื่นล้านสำหรับดีลนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านบาทต่อปี แต่เนื่องจาก ADVANC ถือหน่วย JASIF อยู่ 19% และคาดว่า JASIF จะทำรายได้ให้ ADVANC ประมาณปีละ 800-900 ล้านบาท

ดังนั้น ภาระดอกเบี้ยดังกล่าวจึงจะหักล้างไปกับส่วนแบ่งกำไรจาก JASIF ดังนั้นจึงเหลือเพียงประเด็นผลขาดทุน 2 พันล้านบาทจาก 3BB ที่ ADVANC ต้องจัดการ ทั้งนี้มีหลายแนวทางที่ ADVANC สามารถใช้บรรเทาผลกระทบจากภาระขาดทุนของ 3BB ซึ่งมีทั้งการเติบโตตามปกติของธุรกิจ FBB, การรับรู้ซินเนอร์ยี่และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลขาดทุนในอดีต โดย ADVANC คาดการณ์ว่าผลขาดทุนจาก 3BB ในปี 67 จะน้อยกว่า 2 พันล้านบาท และ 3BB น่าจะถึงจุดคุมทุนในระดับกำไรสุทธิได้ในปี 68

2.มูลค่าซินเนอร์ยี่ 8 พันล้านบาท (หักต้นทุนการควบรวมแล้ว) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นจากการควบรวมในช่วงปี 67-69 โดยมูลค่าซินเนอร์ยี่ส่วนที่ใหญ่ที่สุดจะมาจากด้านของการลงทุน (capex) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะประหยัดต้นทุนไปได้ปีละ 1-2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากกลยุทธ์การขายแบบ upsell และ cross-sell

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ดีลซื้อกิจการ 3BB-JASIF จะส่งผลลบต่อกำไรเล็กน้อยในปี 66-67 ก่อนที่จะ รับอานิสงส์บวกในปี 68 อย่างไรก็ตาม EBITDA หลังการลดค่าเช่า JASIF น่าจะเป็นบวกตั้งแต่วันแรก (15 พ.ย. 66) ดังนั้นดีลนี้จึงไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดของ ADVANC ขณะที่ราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF อยู่ที่ 251 บาท ของ ADVANC ซึ่ง 4 บาทมาจากดีลซื้อ 3BB-JASIF

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ปรับราคาเป้าหมาย ADVANC ขึ้นเป็น 259 บาท (เดิม 250 บาท) อิงวิธี DCF (WACC 8.7%, Terminal growth 2%) สะท้อนประมาณการใหม่ ทั้งนี้ Key catalyst ระยะสั้นคือการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าจะเป็นกุญแจในการขับเคลื่อน ส่วนความเสี่ยงคือ investment cycle รอบใหม่ (5G) และการแข่งขันที่รุนแรงจะเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการ

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มของผู้บริหารเกี่ยวกับการสนับสนุน TTTBB-JASIF จึงได้ปรับกำไรของ ADVANC ขึ้น -6%, -4% และ 5% สำหรับปี 66-68 และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ ADVANC โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 257 บาท โดยใช้วิธี DCF ในช่วงปลายปี 67 ซึ่งความเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยืดเยื้อ และสงครามราคาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ให้บริการ มือถือ

 

Back to top button