“เศรษฐา” หารือ “นายกมาเลย์” ผลักดันการค้าชายแดน-แก้ปัญหาแออัดด่านสะเดา
“เศรษฐา” ร่วมหารือกับนายกมาเลเซีย “ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม” ผลักดันการค้าชายแดน การแก้ปัญหาความแออัดของด่านสะเดา รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย
น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ณ ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อสำรวจความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย และมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อผลักดันในประเด็นที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือกันไว้ในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.)
สืบเนื่องมาจากการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ต.ค.66 โดยผู้นำไทยและมาเลเซียเห็นพ้องในการผลักดันการค้าชายแดน การแก้ปัญหาความแออัดของด่านสะเดา รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย และประเด็นความร่วมมืออื่นๆ ให้มีผลคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
ทั้งนี้จะมีการกระชับความร่วมมือกันในทุกด้าน ทั้งการค้าการลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน ซึ่งมาเลเซียเป็นคู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย และเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทยในอาเซียน ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนให้บรรลุเป้าหมายที่ 30,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568 โดยการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียในปี 2565 มีมูลค่า 336,125 ล้านบาท คิดเป็น 31.76% ของมูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่ผ่านด่านศุลกากรสะเดา ปาดังเบซาร์ เบตง และสุไหงโก-ลก ตามลำดับ และในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนไทยมากเป็นอันดับที่ 1 มากกว่า 2.9 ล้านคน เป็นลำดับ 1 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ทำให้มาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญและมีความสัมพันธ์หลากหลายมิติกับไทย
“การพบหารือของนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซียบริเวณชายแดนด่านสะเดา สะท้อนความตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทยและมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความเชื่อมโยงในการเดินทาง รวมถึงการค้าขายบริเวณชายแดนระหว่างกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเพื่อประโยชน์โดยตรงของประชาชนไทยและมาเลเซีย ทั้งการค้า ลงทุน การท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ และทางด้านสังคม การไปมาหาสู่ระหว่างกัน” น.สพ.ชัย กล่าว
โดยวันพรุ่งนี้ในเวลา 08.30 น.นายกรัฐมนตรีจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แล้วเดินทางไปยังด่านสะเดาแห่งใหม่เวลา 11.00 น.เพื่อให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมหารือทวิภาคี และรับฟังความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย และสถานการณ์การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ผู้นำไทย-มาเลเซีย จะร่วมกันสำรวจเส้นทางเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ โรงแรม Vista
